การดีท็อกซ์ตับ (Liver Detox) คือ การให้วิตามิน กรดอะมิโน วิตามินบี ซี แมกนีเซียม โซเดียมไบคาร์บอเนต เปปไทด์กลูตาไธโอน และสารอาหารต่างๆ ที่จะช่วยเข้าไปส่งเสริมการทำงานของตับเพื่อขับสารพิษ เนื่องจาก ณ ปัจจุบันการใช้ชีวิตของคนเรามีโอกาสรับสารพิษเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง การช่วยให้ตับซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญ และทำหน้าที่หลายบทบาท ทั้งควบคุมระบบการเผาผลาญอาหารภายในร่างกาย ช่วยในการย่อยอาหาร
เป็นแหล่งเก็บสะสมวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ ผลิตเม็ดเลือดแดงและขับสารพิษออกจากร่างกายให้สามารถขับสารพิษได้ดียิ่งขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ แอ็บโซลูท เฮลธ์ เลือกใช้เพื่อดูแลตับให้แข็งแรงและลดสารพิษคั่งค้างในตับ

เปปไทด์กลูตาไธโอน & บทบาทของกลูตาไธโอน
เปปไทด์กลูตาไธโอน คือ โมเลกุลที่เกิดจากกรดอะมิโนซึ่งมีสารตั้งต้นจากกลูตามีน ซีสเทอีน และไกลซีน โดยปกติร่างกายจะนำสารเหล่านี้ไปผลิตเป็นสารตั้งต้นของกลูตาไธโอน โดยกลูตาไธโอนมีความสำคัญกับร่างกาย เพราะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในเซลล์ สำหรับในเรื่องของตับจะช่วยสนับสนุนกระบวนการขับพิษของตับ ดังนั้น เหตุผลที่เราใช้เปปไทด์กลูตาไธโอนสำหรับตับ คือเพื่อมุ่งเน้นให้ออกฤทธิ์ที่ตับและช่วยให้ตับสามารถขับพิษได้ดีขึ้น

ความแตกต่างของ Liver Detox กับ Chelation
การทำคีเลชั่นเรามุ่งเน้นการขับพิษโลหะหนักออกจากร่างกาย แต่สำหรับสารพิษบางชนิด เช่น ยาฆ่าแมลง สารกันบูด ไฮโดรคาร์บอน และพิษพลาสติกนั้น ท้ายที่สุดแล้ว ตับจะเป็นอวัยวะที่ขับสารพิษออกจากร่างกาย ร่างกายคนเรามีโอกาสขับสารพิษที่หลากหลาย แต่ขณะเดียวกันหากร่างกายไม่สามารถผลิตกลูตาไธโอนได้เพียงพอ ย่อมมีแนวโน้มที่สารพิษจะคั่งในร่างกาย ส่งผลให้อนุมูลอิสระคั่งค้างและเป็นที่มาให้เกิดโรคและความเสื่อมของร่างกาย การล้างพิษตับจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

Liver Detox เหตุใดต้องฉีด ไม่ใช่การรับประทาน
เนื่องจากกลูตาไธโอนชนิดรับประทานมีข้อจำกัดด้านการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย แต่การฉีดสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงเป็นประโยชน์อย่างมากกับกระบวนการทำ Liver Detox

ใครที่ควรทำ Liver Detox

• ผู้ที่สัมผัสสารพิษ ได้แก่ ผู้ที่ทานอาหารนอกบ้านเป็นประจำ ผู้ที่ทำงานและต้องสัมผัสกับสารพิษ เช่น เกษตรกร ผู้ที่ทำงานหรืออาศัยใกล้โรงงานอุตสาหกรรม ผู้ที่สูดดมมลพิษเป็นประจำ ผู้ที่นอนดึกเป็นประจำ ผู้ที่มีประวัติดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ผู้ที่มีโอกาสรับสารกันบูด โดยอาจปนเปื้อนจากอาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม แหนม ผู้ที่ได้รับอาหารที่ปนเปื้อนสารพิษอย่างถั่วลิสง พริกป่น เป็นต้น และผู้ที่รับประทานยาแก้ปวดเป็นประจำ                                                                                                                                                                                          

Liver Detox ควรทำบ่อยแค่ไหน การขับสารพิษที่ตับนั้นสามารถทำได้ตามความเหมาะสม ไม่มีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลา เนื่องจากเปปไทด์กลูตาไธโอนในการทำ Liver Detox เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในเซลล์ จึงเป็นประโยชน์กับสุขภาพ จำนวนครั้งที่ทำจึงขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์ ประกอบกับประโยชน์ที่ต้องการมุ่งเน้น เช่น กรณีต้องการประโยชน์เฉพาะเรื่องการขับสารพิษ สามารถทำได้ประมาณ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่กรณีต้องการประโยชน์จากฤทธิ์ของกลูตาไธโอนเพื่อช่วยด้านการรักษาโรคพาร์กินสัน สามารถเพิ่มจำนวนครั้งในแต่ละสัปดาห์ หรือแม้แต่จะทำทุกวันก็สามารถทำได้

ผลข้างเคียงและข้อแนะนำหลัง Liver Detox โดยปกติจะไม่มีอาการใด ๆ การทำ Liver Detox ตับจะสามารถขับสารพิษได้เร็วขึ้น จึงไม่ควรรับสารพิษใหม่ๆ เข้าสู่ร่างกาย เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ เพราะตับจะมีการเมตาโบไลต์ (Metabolite) มากกว่าปกติ รวมถึงไม่ควรรับประทานอาหารมื้อหนักๆ