จุดเริ่มต้นความหย่อนคล้อยและริ้วรอยแห่งวัย
ผิวของคนเราประกอบด้วย ผิวชั้นนอก คือ ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ผิวชั้นกลาง (Dermis) และผิวชั้นใน (Subcutis) ซึ่งในผิวชั้นกลางจะมีโปรตีนอยู่ 2 ชนิด คือ คอลาเจนกับอิลาสติน ซึ่งเป็นตัวที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและมีความยืดหยุ่น ผิวเราจะสวย กระชับก็ขึ้นอยู่กับโปรตีนทั้งสองชนิดนี้ โดยปกติผิวของคนเราจะเริ่มมีริ้วรอยและหย่อนคล้อยจากผิวชั้นกลาง เพราะคอลลาเจนและอีลาสตินให้ความยืดหยุ่นกับผิวเริ่มลดลง เมื่ออายุมากขึ้นช่วงวัยประมาณ 25-30 ปีขึ้นไป คอลลาเจนและอิลาสตินที่นอกจากจะลดลงตามวัยแล้ว ยังมีที่มาจากการใช้งานผิวในแต่ละคนด้วย โดยเฉพาะผิวที่ต้องสัมผัสกับแสงแดด แสงอุลตร้าไวโอเลตหรือแสงไฟเป็นประจำ จะถูกทำลายได้ไวกว่าปกติ ทำให้ผิวเกิดอาการหย่อนคล้อย และมีริ้วรอยเร็วขึ้นกว่าปกติ                                       

ไฟโบรบลาสต์
ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) คือ เซลล์ที่เป็นตัวสร้างโปรตีนสองชนิด คือ คอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งมีความสำคัญมากสำหรับผิวหนังของคนเราในการรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ช่วยยึดเหนี่ยวให้มีความเเข็งแรงและความยืดหยุ่นกับผิวหนัง ดังนั้นเวลาที่อายุมากขึ้นตั้งแต่ 25-30 ปี ขึ้นไป ไฟโบรบลาสต์จะค่อยๆ ลดจำนวนลง ไม่สร้างคอลาเจนและอิลาสตินขึ้นใหม่ ซึ่งจุดสำคัญนั้นคือคอลาเจนและอิลาสตินที่ลดลง เมื่อลดลงแล้วก็จะลดไปอย่างถาวรร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้อีก เรียกว่าลดแล้วลดเลย

ไฟโบรบลาสต์ สามารถเข้าไปช่วยดูแลผิวได้อย่างไร
แน่นอนว่าในปัจจุบัน ด้วยวิทยาการที่ก้าวหน้าเรามีหลายวิธีในการช่วยกระตุ้นให้มีการสร้างคอลาเจน อิลาสตินขึ้นมาใหม่ได้หลายวิธี แต่สำหรับ “ไฟโบรบลาสต์” นั้นคือตัวช่วยที่สำคัญในการสร้างคอลาเจน อิลาสตินได้โดยตรง

สามารถทำได้อย่างไร ?
ทำได้โดยการฉีดไฟโบรบลาสต์เข้าไปที่ผิวชั้นกลาง ในตำแหน่งที่มีปัญหาของแต่ละบุคคล แต่โดยส่วนใหญ่ที่พบได้บ่อย คือ ริ้วรอย โดยเฉพาะร่องแก้ม มุมปาก รอบดวงตา หน้าผาก หรือกรณีแก้มตอบต้องการเติมให้แก้มดูเต็ม สมส่วนมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถฉีดไฟโบรบลาสต์ที่บริเวณคอและหลังมือได้ด้วย การฉีดไฟโบรบลาสต์อีกตำแหน่ง คือ จะฉีดเข้าผิวตามจุดฝังเข็ม เพื่อให้ไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลาเจน อิลาสตินให้กับผิวหน้าขึ้นมาใหม่ ไฟโบรบลาสต์ พัฒนามาจาก Cell เริ่มต้น ซึ่งเป็น Cell เริ่มต้น สำหรับสร้างผิวหนัง พอเราเติมไฟโบรบลาสต์เข้าไปในชั้นผิวหนังให้มีจำนวนมากขึ้นก็จะสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินให้มีมากขึ้น ฉะนั้น ความยืดหยุ่นของผิวหนัง ความกระชับ เต่งตึงของผิวหนังก็จะฟื้นขึ้นใหม่

ผลลัพธ์ที่ได้เมื่อฉีดไฟโบรบลาสต์
หลังการฉีดไฟโบรบลาสต์เพื่อประโยชน์ด้านริ้วรอยจะมีผลอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับปริมาณของไฟโบรบลาสต์ที่ฉีดและการดูแลผิวหลังการฉีด เช่น การทาครีมบำรุงผิว ทาครีมกันแดด ซึ่งมีส่วนช่วยปกป้องผิวทำให้ไฟโบรบลาสต์อยู่ได้นานขึ้นกว่ากรณีที่ฉีดแล้วไม่บำรุงดูแลผิว หรือกรณีฉีดแล้วใช้งานผิวเยอะ โดนแดด โดนแสงอุลตร้าไวโอเลตหรือแสงไฟมากๆไฟโบรบลาสต์ก็จะมีอายุสั้นกว่าปกติ ดังนั้น หลังการฉีดไฟโบรบลาสต์จึงควรพักผิวหน้า 1 วัน วันต่อมาก็จะสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ควรงดการทำทรีทเมนท์ที่รบกวนผิวหน้าเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เช่น การนวดหน้า การอบซาวน่า

ทำแล้วเมื่อไหร่จึงเห็นผล
หลังการฉีดจะเห็นผลทันทีในระดับหนึ่ง และจะเห็นผลได้ชัดเจนเต็มที่หลังฉีดประมาณ 1-3 เดือน โดยเฉลี่ยประมาณ 1 เดือน จะเริ่มเห็นริ้วรอยที่ลดลงในจุดที่ฉีด เช่น รอบดวงตา ร่องแก้ม หากถามถึงข้อดีของการฉีดไฟโบรบลาสต์ที่คนส่วนใหญ่ประทับใจ คือ ช่วยให้ผิวหน้ามีน้ำมีนวล ตึงสวย พร้อมทั้งได้ประโยชน์ในด้านการยกกระชับร่วมด้วย และสามารถแสดงสีหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ผสานพลังที่เหนือระดับ
เมื่อฉีดไฟโบรบลาสต์แล้ว สามารถใช้ Premium HIFU เทคโนโลยีการใช้อัลตราซาวด์คลื่นความถี่สูง รวมถึงเครื่องมือในกลุ่ม Rejuvenate หรือ Long Pulse Laser ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลาเจน อิลาสติน ด้วยได้ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้ไฟโบรบลาสต์อยู่ได้นานขึ้น ไม่ต้องฉีดซ้ำบ่อยๆ แต่ถ้าอยากสวยแบบ Perfect ตลอดเวลา สามารถฉีดซ้ำได้ทุก 6 เดือน โดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ การฉีดไฟโบรบลาสต์นั้นคือตัวช่วยที่สำคัญเพื่อให้คุณอ่อนเยาว์ได้อีก 5-10 ปี ช่วยให้คณดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ

ข้อแนะนำในการฉีดไฟโบรบลาสต์

• ภายหลังการฉีด อาจมีอาการบวมเพียงเล็กน้อย และวันถัดไปก็จะหายเป็นปกติ
• สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกล็ดเลือด เลือดออกง่าย มีรอยช้ำง่าย ต้องแจ้งแพทย์เพื่อพิจารณาถึงความเหมาะสม เนื่องจากหลังฉีดอาจมีรอยจุดแดงๆ ณ จุดที่ฉีด เหมือนรอยยุงกัดทั่วบริเวณที่ฉีดได้
• กรณีที่รับประทานยาหรือวิตามินที่ช่วยในการไหลเวียนเลือด อาทิ ยาแอสไพริน น้ำมันปลา (Fish Oil) วิตามิน ซี ควรหยุดรับประทานก่อนฉีดประมาณ 1-2 วัน