ความจริงแล้วการบำบัดด้วยแสงมีมาอย่างยาวนานในชีวิตของเรา โดยเฉพาะหลายคนที่เคยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือคลินิก ย่อมรู้จักหรือได้ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้มาบ้าง เช่น การเอกซเรย์เพื่อตรวจวินิจฉัย การฉายรังสีรักษา หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า การฉายแสง ซึ่งใช้ร่วมในการรักษาโรคมะเร็ง รวมถึงการใช้แสงเลเซอร์เพื่อการทำกายภาพบำบัด หรือในแง่ของความสวยความงามที่พบบ่อย เช่น การใช้แสงเลเซอร์เพื่อจี้กระ ฝ้า ปาน รักษาแผลเป็นนูน แผลเป็นคีลอยด์ รักษารอยแดงจากสิว และใช้ในการกำจัดขน
เจาะลึกในเรื่องของแสง
เราจะพาไปรู้จักที่มาของแสงที่นำมาใช้บำบัดรักษาว่ามีที่มาอย่างไร แล้วทำไมจึงสามารถบำบัดรักษาร่างกายของคนเราได้...แสงที่ตามองเห็น (Visible light) เป็นส่วนหนึ่งของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ในช่วงคลื่น 400 - 700 นาโนเมตร หากเรานำแท่งแก้วปริซึมมาหักเหแสงอาทิตย์ เราจะเห็นว่าแสงสีขาวถูกหักเหออกเป็นสีม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง คล้ายกับสีของรุ้งกินน้ำ เรียกว่า “สเปกตรัม” (Spectrum) แสงแต่ละสีมีความยาวคลื่นแตกต่างกัน แสงสีม่วงมีความยาวคลื่นสั้นที่สุด คือ น้อยกว่า 400 นาโนเมตร และแสงสีแดงมีความยาวคลื่นมากกว่า 700 นาโนเมตร
นอกจากแสงที่ตามองเห็นแล้วยังมีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดอื่น ๆ ได้แก่ รังสีแกมม่า (Gamma ray) ความยาวคลื่นน้อยกว่า 0.01 นาโนเมตร รังสีเอกซ์ (X-ray) ความยาวคลื่น 0.01-1 นาโนเมตร รังสีอัลตราไวโอเล็ต (Ultraviolet radiation) ความยาวคลื่น 1 – 400 นาโนเมตร ช่วงคลื่นแสงที่ตามองเห็น (Visible light) ความยาวคลื่น 400-700 นาโนเมตร รังสีอินฟราเรด (Infrared radiation) มีความยาวคลื่น 700 นาโนเมตร ถึง 1 ไมโครเมตร คลื่นไมโครเวฟ (Microwave) มีความยาวคลื่น 1 ไมโครเมตร ถึง 10 เซนติเมตร คลื่นวิทยุ (Radio wave) ความยาวคลื่นมากกว่า 10 เซนติเมตร
ในปัจจุบันคลื่นแสงที่เรานำมาใช้ และสามารถควบคุมคลื่นแสงที่ออกมาให้ได้ความยาวและแสงสีที่ต้องการ ได้แก่
- ช่วงคลื่นแสงที่ตามองเห็น (Visible light)
- รังสีอัลตราไวโอเล็ต (UV Spectrum) ที่ใกล้เคียงกับแสงสีม่วง
- แสงที่ใกล้กับรังสีอินฟราเรด (Near Infrared Spectrum)
- แสงสีแดง (Red Spectrum)
- แสงสีเหลือง (Yellow Spectrum)
- แสงสีเขียว (Green Spectrum)
- แสงสีน้ำเงิน (Blue Spectrum)
แสงที่ใช้ในการบำบัดแต่ละสีให้คุณประโยชน์แตกต่างกัน เช่น ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับเซลล์ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด บรรเทาอาการปวด ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบทางเดินหายใจ กระตุ้นการสร้างวิตามินดี พลังงานไทรอยด์ ช่วยให้เกิดความผ่อนคลาย ช่วยลดภาวะซึมเศร้า ฯลฯ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเลือกใช้แสงสีต่าง ๆ ตามความเหมาะสมสำหรับโรคและบุคคล
แสงบำบัด เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
เซลล์ในร่างกายของคนเรามีกระบวนการสร้างพลังงาน แน่นอนว่าสิ่งสำคัญของพลังงานก็คือ การรักษาสมดุลและสำหรับคนเราการรักษาสมดุลย่อมทำได้ด้วยการทานอาหาร การหายใจ การไหลเวียนเลือด เป็นกลไกลพื้นฐานของการเติมพลังงานให้กับเซลล์ แต่ในทางกลับกันถ้าทานอาหารไม่เหมาะสม มีความเครียด พักผ่อนน้อย ขาดการออกกำลังกาย ระบบไหลเวียนเลือดติดขัด อากาศไม่บริสุทธิ์ รวมไปถึงรับสารพิษต่าง ๆ รอบตัว ย่อมส่งผลต่อการทำงานพื้นฐานของเซลล์ ทำให้เซลล์ไม่สามารถสร้างพลังงานได้ดีพอ ส่งผลให้เซลล์เสื่อม ตาย หรือกลายพันธุ์เป็นมะเร็ง จึงสามารถกล่าวได้ว่าปัจจัยเหล่านี้เป็นสาเหตุของโรคเสื่อมถอย และโรคเรื้อรังเกือบทั้งหมด
เพราะฉะนั้นศูนย์การแพทย์บูรณาการแอ็บโซลูท เฮลธ์ ด้วยเราเข้าใจถึงการรักษาอย่างแท้จริงจึงมีแนวทางการรักษาพื้นฐานที่เน้นแก้ไขปัญหาที่ต้นตอของโรคและความเสื่อม พร้อมทำให้สมดุลของพลังงานแต่ละเซลล์ในร่างกายมีสมดุลที่ดี
เพราะนั่นคือกุญแจสำคัญของการมีสุขภาพที่แข็งแรง
และหนึ่งในวิธีที่เลือกใช้ในการดูแลรักษาก็คือ “พลังงานแสงบำบัด” ศูนย์การแพทย์บูรณาการแอ็บโซลูท เฮลธ์ กล่าวเสมอว่า “พลังงานแสงบำบัด...ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะเซลล์ของเราต้องผลิตพลังงาน และตัวเราก็คือพลังงาน...ดังนั้น พลังงานแสงบำบัดจึงสามารถบำบัด เยียวยาร่างกายของเราได้เช่นเดียวกัน เราใช้
นวัตกรรมพลังงานแสงบำบัดใดบ้าง ?
ศูนย์การแพทย์บูรณาการแอ็บโซลูท เฮลธ์ ได้มีการนำคุณสมบัติของคลื่นแสงที่ถูกผลิตเป็นเครื่องเลเซอร์นวัตกรรมในการบำบัดด้วยแสง (Light Therapy)
มาใช้หลายชนิดด้วยกัน ได้แก่
- Low Level Laser Therapy
- UV Blood Irradiation ( H.O.T UV, UVL )
- Hydrosun
- Photodynamic Therapy (PDT)
- Laser Watch
- Infrared Sauna
- Hot Jade Mattress
- High Power Laser Therapy
หากใครแอบกังวลเกี่ยวกับการใช้แสงเพื่อการบำบัดรักษาว่าจะปลอดภัยหรือไม่…สบายใจได้เลย เพราะพลังงานแสงบำบัดที่ใช้เป็นคลื่นแสงที่อยู่ในช่วงคลื่นแสงแบบธรรมชาติ ไม่เป็นอันตราย หรือก่อให้เกิดผลกระทบกับสุขภาพ สามารถใช้ในการบำบัดรักษาได้อย่างไร้กังวล
เข้าสู่ระบบ
Create New Account