โลหะหนักเป็นสารพิษที่มีความรุนแรง สามารถทำให้เกิดอนุมูลอิสระและเป็นต้นตอของความแก่ชราและความเสื่อมในร่างกาย การตรวจคัดกรองสารพิษโลหะหนัก จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ศูนย์การแพทย์บูรณาการ แอ็บโชลูท เฮลธ์ เลือกใช้เพื่อหาต้นเหตุของการเกิดความเสื่อมของโรค
การตรวจสารพิษโลหะหนัก
ทำได้โดยการตรวจเลือดเพื่อวิเคราะห์ว่ามีสารพิษโลหะหนักใดตกค้างในร่างกายบ้าง ซึ่งสามารถตรวจดูได้ทั้ง สารหนู ตะกั่ว ปรอท แคทเมียม แมงกานีส โคบอล นิกเกิล อลูมิเนียม เหตุผลที่เราควรตรวจหาสารพิษโลหะหนัก เนื่องจากเราไม่สามารถทราบได้ว่าร่างกายมีสารพิษหรือไม่ เพราะชีวิตเราล้วนมีโอกาสได้รับสารพิษโลหะหนักทั้งสิ้น เพราะสารพิษนี้อยู่ในสิ่งแวดล้อมและในอาหาร ซึ่งสามารถรับเข้าร่างกายจากการหายใจ การดื่ม การรับประทานและการสัมผัสได้ทั้งสิ้น
สารพิษโลหะหนักส่งผลกับร่างกายอย่างไร
สารพิษโลหะเข้าไปรบกวนการทำงานของแร่ธาตุต่างๆ ในร่างกาย ส่งผลให้ระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายหยุดชะงัก
เป็นอันตรายต่อผนังเซลล์ เซลล์จึงถูกทำลาย
ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ และลดระดับของสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้น
หลอดเลือดอักเสบ ผนังหลอดเลือดขรุขระ ส่งผลให้หลอดเลือดแข็ง เกิดพลาคหรือเกิดลิ่มเลือดอุดตัน ทำให้หลอดเลือดขาดความยืดหยุ่นและหดตัว กลายเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเส้นเลือดตีบตัน และทำให้สารอาหารหล่อเลี้ยงอวัยวะได้น้อยลง ส่งผลให้เกิดความเสื่อมสภาพของอวัยวะในร่างกายอย่างต่อเนื่อง เช่น เกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน ออทิสติก โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไตเสื่อม ตาเสื่อม โรคเรื้อรังต่างๆ
เกิดภาวะต่อมหมวกไตล้า ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมเร็ว ความเครียดสูง เช่นเดียวกับในต่อมไร้ท่ออื่นๆ หากมีสารโลหะหนักสะสมจะทำให้สร้างฮอร์โมนต่างๆ ได้ลดลง
ส่งผลให้ผู้ป่วยเบาหวานไม่ตอบสนองต่อยาลดน้ำตาลในเลือด
สามารถนำไปสู่ภาวะเสื่อมของระบบประสาท เช่น ความคิด ความจำ และโรคซึมเศร้า
เกี่ยวข้องกับการที่กระดูกพรุน ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ
ทั้งนี้ ความเป็นพิษของโลหะหนักขึ้นอยู่กับรูปแบบทางเคมีของสารประกอบของโลหะหนักแต่ละชนิด และเส้นทางที่ร่างกายได้รับเข้าไป เช่น ทางระบบหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ผิวหนัง โรคหลอดเลือดตีบแข็ง
เมื่อทราบถึงประโยชน์ของการตรวจหาสารพิษโลหะหนักแล้ว อย่ารอช้า รีบเข้ารับการตรวจเพื่อดูแลตัวเองก่อนที่สารพิษจะสะสมในร่างกายจนก่อโรค เพราะการมีสุขภาพดีเกิดขึ้นได้ ถ้าคุณเลือกที่จะดูแล
แนวทางการรักษา
เมื่อต้องขับสารพิษโลหะหนักออกจากร่างกาย วิธีที่ได้ผลดี คือ การทำคีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) โดยใช้ตัวยาที่มีคุณสมบัติดูดซับสารพิษและขจัดออกทางปัสสาวะ อาทิ EDTA, DMSA, หรือ DMPS ซึ่งจะแตกต่างกันด้วยรูปแบบการใช้ ได้แก่ การรับประทาน การฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ หรือรูปแบบของยาสอดทวาร โดยแพทย์จะพิจารณาเพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล นอกจากสารที่ใช้ดักจับสารพิษแล้ว ยังมีการผสมวิตามินและแร่ธาตุต่างๆด้วย เพื่อช่วยฟื้นฟูสุขภาพ และปรับสมดุลร่างกาย เพราะการขับสารพิษโลหะหนักอาจทำให้ร่างกายสูญเสียแร่ธาตุออกไปบ้างระหว่างการทำคีเลชั่น จึงต้องให้วิตามินและแร่ธาตุทดแทนควบคู่กัน
เข้าสู่ระบบ
Create New Account