ตับอวัยวะสำคัญของร่างกายที่มีเพียงหนึ่งเดียว และไม่มีอวัยวะอื่นใดแทนที่ได้ หรือทำหน้าที่สำคัญแทนได้เลย เพราะเมื่อไหร่ ก็ตามที่ตับเกิดปัญหา อาจนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ที่ตามมาและส่งผลอันตรายถึงชีวิต การดูแลสุขภาพตับให้แข็งแรงห่างไกลโรค จึงถือเป็นการดูแลสุขภาพตับที่ดีที่สุดที่สามารถทำได้
หน้าที่ของตับ
ผลิตฮอร์โมนและโปรตีนที่จำเป็น ทั้งการสร้าง Plasma proteins เช่น อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำ สารอาหารและเกลือแร่เอาไว้ในหลอดเลือด รวมถึงการสร้างโปรตีน Fibrinogen ที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด
ช่วยทำหน้าที่ย่อยอาหาร และช่วยผลิตน้ำดี ที่ทำหน้าที่ย่อยและเผาผลาญไขมัน
เป็นแหล่งสะสมของพลังงาน โดยเป็นที่กักเก็บไกลโคเจน เพื่อส่งให้ร่างกาย
ช่วยขับล้างสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย โดยการขับถ่าย และการขับออกทางปัสสาวะ
ตับป่วยด้วยโรคอะไรได้บ้าง
ไขมันพอกตับ คือ ภาวะที่มีไขมันเข้าไปแทรกบริเวณเนื้อเยื่อตับ ซึ่งปกติแล้วไขมันในร่างกายนั้นจะถูกเก็บไว้ตามเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวหนังที่พุง แต่เมื่อใดที่มีไขมันมากเกินไป ไขมันจะไปแทรกและแย่งพื้นที่ตับ ซึ่งอาจส่งผลให้ตับเสื่อมสภาพลงเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันก็จะหลั่งสารอักเสบออกมาในร่างกายตามปริมาณไขมันที่พอกตับขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหากไขมันสะสมมากเกินไป เซลล์ตับก็จะถูกแปรสภาพได้ ซึ่งเมื่อใดที่แปรสภาพนั่นหมายถึงภาวะความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง
โรคตับแข็ง คือภาวะที่ตับถูกทำลายจากการอักเสบซ้ำ ๆ ทั้งการอักเสบจาก ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี หรือการที่ปล่อยให้ร่างกายเป็นไขมันพอกตับเรื้อรัง โดยตับที่ถูกทำลายและอักเสบนั้นจะเกิดการซ่อมแซมตนเองด้วยการสร้างเนื้อเยื่อที่เป็นพังผืดแข็ง (ภาวะตับแข็ง ) ขึ้นมาแทนเนื้อตับปกติ ทำให้ตับนั้นทำงานลดลง เลือดไปเลี้ยงที่ตับน้อยกว่าปกติ ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ตับก็จะสูญเสียความยืดหยุ่นและกลายเป็นอาการตับแข็งในที่สุด
ไวรัสตับอักเสบ คือ ภาวะตับอักเสบที่เกิดจากการอักเสบของเชลล์ตับ ไวรัสตับอักเสบมีหลายสายพันธุ์ ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบเอ บี ซี ซึ่งการติดต่อจะแตกต่างกันไป โดยไวรัสตับอักเสบ เอ จะติดต่อจากแม่สู่ลูก ไวรัสตับอักเสบ บีและซีจะติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ และผ่านทางเลือด ซึ่งหากปล่อยให้มีการอักเสบเรื้อรัง ก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคตับแข็งและมะเร็งตับได้
ตับทำงานได้ดีหรือไม่เช็กได้ด้วยวิธีนี้
ตับยังทำงานได้ดีอยู่หรือไม่ สามารถตรวจเช็กความผิดปกติของตับได้ด้วยการตรวจ Liver function tests หรือการตรวจเลือดเพื่อหาค่าการทำงานของตับที่ประกอบไปด้วยการตรวจ AST (SGOT), ALT (SGPT), ALP (Alkaline phosphatase), Total bilirubin, Direct bilirubin, Albumin, Globulin, A/G Ratio และ GGT (Gamma GT)
โดยการตรวจเลือดนั้นจะช่วยทำให้ทราบว่าตับนั้นทำงานปกติอยู่หรือไม่ ถ้าค่าขึ้นสูงแสดงว่าตับเกิดการอักเสบและมีปัญหา อาจต้องตรวจเช็กซ้ำด้วยการทำ Ultrasound และการตรวจ Fibroscan เพื่อให้เห็นว่าไขมันแทรกตับไปขนาดไหน ตับทำงานได้ดีแค่ไหนแล้วและเป็นการตรวจเช็กที่ละเอียดมากยิ่งขึ้นกว่าการตรวจเลือดเพียงอย่างเดียว
แนวทางการฟื้นฟูสุขภาพตับด้วยการแพทย์แบบบูรณาการ
เพราะตับมีหน้าที่การทำงานหลายอย่าง ดังนั้นหากตับถูกทำลาย สิ่งที่ต้องทำก็คือต้องซ่อมแซมและฟื้นฟู ซึ่งในทางการแพทย์แบบบูรณาการนั้น การฟื้นฟูตับจะให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้
การขับสารพิษออกจากตับ เช่น Liver Detox ซึ่งเป็นการรวมวิตามินบี ซี กรดอะมิโน กลูตาไธโอน และสารอาหาร เข้าไปกระตุ้นการทำงานของตับ เพื่อให้ตับได้ขับสารพิษได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้สามารถใช้วิธีการล้างพิษอื่น ๆ ในร่างกายเช่น การทำคีเลชั่น ร่วมดูแลก็จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ช่วยลดปริมาณสารพิษสะสมในร่างกายและช่วยแบ่งเบาการทำงานในการขับสารพิษของตับได้อีกด้วย
การใช้สารอาหารบำบัด จากธรรมชาติ เพื่อสนับสนุนการทำงานของเซลล์ตับ พบว่ามีงานวิจัยทางหลายอย่างกล่าวถึงสารสกัดจากธรรมชาติที่มีส่วนในการสนับสนุนเอนไซม์ต่าง ๆ ของตับในการขจัดสารพิษ เพื่อดูแลและฟื้นฟูการทำงานของตับ เช่น สารสกัดจากเห็ดบางชนิด Silymarin ในสมุนไพร Milk thistle สารสกัดในกลุ่มของ Thiol ที่มีอยู่ใน กระเทียมสด หอมแดงหรือผักที่มีกลิ่นฉุน รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ เช่น Vitamin C, Vitamin E, Co enzyme Q10, Selenium รวมถึงการใช้ probiotic ในการปรับสมดุลทางเดินอาหาร
การสนับสนุนการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ตับ เช่น การใช้สารอาหารจำพวกเปปไทด์ หรือยากลุ่ม Homeopathy
การอดอาหารล้างพิษ Intermittent Fasting จะช่วยเปลี่ยนแปลงการทำงานของระบบเผาผลาญเพื่อช่วยสลายไขมันในช่องท้อง และลดไขมันในตับได้อีกด้วย
ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เข้านอนเร็ว ตื่นแต่เช้า หมั่นออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญ เพื่อลดไขมันส่วนเกินที่จะสะสมในเนื้อเยื่อตับและช่องท้องของเรา
งดการรับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะจากอาหารและยาเคมีต่าง ๆ รวมถึงงดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เลิกสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงสารเคมีจากการย้อม การยืด การดัด และการทำสีผม จากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน และหลีกเลี่ยงการทานถั่วลิสงที่คั่วไว้นานแล้วเพราะอาจได้อัลฟาท็อกชินจากเชื้อรา
เพราะตับของเรามีอันเดียว ถ้าไม่อยากให้ตับป่วยจนสายเกินแก้ อย่าลืมดูแลสุขภาพตับให้ดีก่อนรู้ตัวเมื่อสายตอนที่ตับแย่จนแก้ไม่ได้แล้ว....
เข้าสู่ระบบ
Create New Account