เวลาได้รับข้อมูลว่าภูมิต้านทานไม่ดี มันไม่ดีจริงหรือเปล่า? มีอะไรเป็นตัวชี้วัด...หรือถ้าป่วยเป็นมะเร็งและรักษาด้วยภูมิต้านทานบำบัด จะรู้ได้อย่างไรว่าได้ผลจริงหรือไม่? มีการตรวจอะไรที่บอกได้...
...Masuyama Test คือคำตอบ...เพราะ!
Masuyama Test เป็นเทคนิคการตรวจที่ถูกคิดค้นขึ้นโดย Dr. Masuyama จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อทำให้ทราบว่าภูมิต้านแบบใดเรียกว่าภูมิต้านทานที่ดี และแบบใดที่ไม่ดี โดยมีตัวชี้วัดและนำไปอ้างอิงกับโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งได้ ซึ่ง Dr. Masuyama นั้นเป็นผู้ที่ศึกษาด้านภูมิต้านทานบำบัด โดยใช้เซลล์เพชฌฆาต หรือ เซลล์เพชฌฆาต
Dr. Masuyama ได้สรุปถึงตัวชี้วัดของภูมิต้านทานไว้ 6 ชนิด และถ้าทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ดี ย่อมเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าภูมิต้านทานอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และนั่นก็หมายถึงประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ พร้อมต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง รวมทั้งกรณีที่แพทย์รักษาคนไข้มะเร็งด้วยวิธีกระตุ้นภูมิต้านทานทุกด้านของคนไข้ให้ดีขึ้น และต้องการตรวจวัดผลการรักษา การตรวจ Masuyama Test ก็จะทำให้ทราบผลการรักษาและเพื่อยังช่วยให้ทราบถึงว่าควรเลือกการรักษาแบบใด ยา วิตามินหรือสมุนไพรใด เพื่อให้ภูมิต้านทานในแต่ละตัวชี้วัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีที่สุด
6 ตัวชี้วัดภูมิต้านทานของ Masuyama Test ได้แก่
-
Number of เซลล์เพชฌฆาต: ปริมาณเม็ดเลือดขาวชนิด เซลล์เพชฌฆาต
-
เซลล์เพชฌฆาต Vue: สารเคมีที่ NK ผลิตขึ้นเมื่อเม็ดเลือดขาวมีการตอบสนอง
-
Number of NKG2D+Cells: ปริมาณเซลล์ที่มี NKG2D ถ้าเซลล์ใดมี NKG2D มากจะบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพเม็ดเลือดขาวในการกำจัดเชื้อ กำจัดเซลล์ที่ติดเชื้อ หรือกำจัดเซลล์มะเร็ง
-
Neutrophil/Lymphocyte Ratio: สัดส่วนของ Neutrophil และ Lymphocyte เป็นการระบุถึงความสามารถของภูมิต้านทานในการพยากรณ์โรคของภูมิต้านที่มีต่อมะเร็ง เพราะ Neutrophil และ Lymphocyte ต่ำ แสดงว่าภูมิต้านทานไม่ดี
-
Number of Lymphocytes: การวัดปริมาณ Lymphocytes เพราะถ้า Lymphocytes ต่ำ ภูมิต้านทานชนิดจำเพาะในการสู้กับเซลล์มะเร็งก็มีต่ำด้วย
-
CD4/CD8 Ratio: การดูเม็ดเลือดขาวชนิด CD4 และ CD8 ที่ช่วยในการสู้กับเซลล์มะเร็ง ถ้าผลตรวจที่ได้ต่ำ เท่ากับสภาวะร่างกายไม่แข็งแรง ความสามารถในการกระตุ้นการเติบโตของเม็ดเลือดขาวอื่น ๆ ต่ำตามไปด้วย
6 ตัวชี้วัดนี้ เป็นการวัดเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพควบคู่กัน ซึ่งการตรวจ Masuyama Test ทำได้ด้วยการตรวจเลือด และทราบผลภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยไม่มีข้อจำกัดในการตรวจ จึงทำให้ตรวจได้กับทุกคน ถ้าคนปกติทั่วไปตรวจและผลออกมาในทางต่ำ นั่นแสดงว่าคุณป่วยได้ง่าย แต่ถ้าช่วงที่ภูมิต้านทานต่ำเป็นจังหวะเดียวกับมีการแบ่งเซลล์ผิดปกติ ก็แปลว่าภูมิต้านทานของคุณไม่แข็งแรงพอที่จะต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง แน่นอนว่าเราไม่มีทางรู้ได้ว่าวันใดจะมีเซลล์ผิดปกติเกิดขึ้นเป็นเซลล์แรก แต่ในทางกลับกัน ถ้าเรามีภูมิต้านทานที่แข็งแรง และไม่ว่าเซลล์ผิดปกติเซลล์แรกจะเกิดขึ้นเมื่อใด ภูมิต้านทานของเราก็สามารถกำจัดเซลล์ที่ผิดปกตินั้นได้ตั้งแต่ก่อนเป็นเซลล์มะเร็ง ฉนั้น หากเราดูแลระบบภูมิต้านทานให้แข็งแรง โอกาสการเกิดความเสี่ยงมะเร็งก็ย่อมน้อยลงด้วยเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ Dr. Masuyama ได้มีการศึกษา โดยให้คนปกติทั่วไปเข้ารับการดูแลภูมิต้านทาน โดยเฉพาะการใช้เม็ดเลือดขาวกระตุ้น และปลูกถ่ายใหม่ เรียกว่า Autologous NK CPT/FCT Therapy ทุก 6 เดือน เพื่อให้ T-Cell, เซลล์เพชฌฆาต Count, เซลล์เพชฌฆาต Activity และNKG2D เพิ่มขึ้น เมื่อทำการปลูกถ่ายเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าตัวชี้วัดต่าง ๆ ดีขึ้นทันทีภายใน 3 วัน และในระยะยาวประมาณ 4-5 ปี อัตราการเกิดมะเร็งของกลุ่มคนที่ทำ Autologous NK CPT/FCT Therapy พบว่าจาก 100 คน จะเกิดมะเร็ง 2 คน เมื่อเทียบกับกับกลุ่มที่ใช้ยาหลอกไม่ได้ทำการรักษา 100 คน จะเกิดมะเร็ง 14 คน เท่ากับแตกต่างกัน 7 เท่า จากการศึกษาวิจัยจึงสรุปได้ว่า การดูแลภูมิต้านทานให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้
จากบทความข้างต้นย่อมทำให้ทราบว่า ภูมิต้านทานดีหรือไม่ดีตรวจวัดได้ด้วย Masuyama Test ข้อมูลนี้คงจะมีประโยชน์สูงสุด ถ้าจะคุณตรวจเพื่อให้ทราบถึงระดับภูมิต้านทานของตัวเอง และกระตุ้นภูมิต้านทานหากพบว่าอยู่ในระดับต่ำ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ร่างกายของคุณพร้อมเสมอที่จะต่อสู้กำจัดเชื้อโรค หรือเซลล์ผิดปกติในร่างกายให้ได้ก่อนที่จะพัฒนากลายไปเป็นมะเร็ง
เข้าสู่ระบบ
Create New Account