คุณจิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ ซึ่งเรียกว่าเป็นบุคคลที่ดูแลตัวเองได้ดีมาก ๆ ท่านหนึ่ง เข้าคอนเซ็ปต์งามจากภายในสู่ภายนอก สุขภาพร่างกายรวมทั้งผิวพรรณเปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์กว่าวัย ซึ่งเราได้ไปถามถึงเคล็ดลับในการดูแลสุขภาพมาฝากท่านสมาชิกกันครับ
"พูดถึงเรื่องสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญนะค่ะ ต้องลงทุนและใส่ใจ ให้เวลาค่ะ ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส อารมณ์ดี ไม่เครียดและมีสติค่ะ"
ตอนแรกต้องคิดก่อนว่าอย่ากลัวว่าอะไรจะเกิดในชีวิตของตัวเอง เราต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ เพราะว่าคนเราต้องมีความสุข หัวใจจะได้สูบฉีด ทำงานได้อย่างเต็มที่ จะได้มีความสุข แต่ถ้าเครียดมาก ๆ จะทำให้ร่างกายเราเศร้าไปด้วยและทุกอย่างจะแย่ตามลงไปด้วย
ทุกวันนี้เราเต็มที่กับการทำงานค่ะ เชื่อมั้ยค่ะว่าอาชีพการงานของจิ๊กนั้นเหนื่อยมาก ชีวิตทุกวันมีแต่งานไม่ได้พักผ่อนเลย ในวันหนึ่ง ๆ มีเวลาพักผ่อนนอนประมาณแค่ 2-3 ชั่วโมง เราก็นอนไม่เป็นเวลาด้วย และอาจจะส่งผลต่อสุขภาพในอนาคตได้ อาทิ มีผลของการไหลเวียนของเลือดไม่ดี เราก็เลยต้องดื่มน้ำเยอะ ๆ แต่ดื่มน้ำเยอะเท่าไหร่ ก็ยังไม่พอเราก็ต้องดูแลตัวเองด้วยวิธีการอื่น ๆ ด้วย ตั้งแต่ทำงานมาจิ๊กเริ่มกลัวความตาย กลัวที่สุดก็คือการไปโรงพยาบาล หาหมอที่จะต้องผ่าตัด ฉีดยา กินยา มันก็วนเวียนอยู่ในวัฎจักรแบบนี้
อย่างการที่ต้องกินยาเป็นประจำแบบนี้ถามว่าหายมั้ย มันก็หายแต่มันรู้สึกว่าจะต้องกินทุกวัน แต่จิ๊กเป็นคนไม่ชอบทานยา เลยต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ต้องหาตัวช่วยและหาทางเลือกค่ะ ก็เลยมาปรึกษาที่แอ็บโซลูท เฮลธ์ มีเพื่อนๆ แนะนำมา
จิ๊กก็เลยไปที่ศูนย์การแพทย์บูรณาการแอ็บโซลูท เฮลธ์ ทางศูนย์แนะนำข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการดูแลรักษาสุขภาพ มีทั้งในเชิงป้องกันก่อนป่วย ดูแลเสริมภูมิต้านทานสุขภาพให้แข็งแรง รวมถึงเมื่อป่วยเป็นโรคแล้วจะมีแนวทางการรักษาแบบองค์รวม รักษาและแก้ไขโรคที่ต้นเหตุ หลีกเลี่ยงการใช้ยาและสารเคมี และก็แนะนำการตรวจเช็คร่างกายแบบองค์รวม ที่ช่วยประเมินสภาวะการทำงานของร่างกายเราทุกระบบ ทุกอวัยวะ เรียกว่า เครื่อง Quantum Scan โดยเครื่องนี้จะสแกนทั้งร่างกาย เราจะรู้ว่าร่างกายเราเป็นอย่างไรบ้าง และสามารถรู้ได้เร็วกว่าการเจาะเลือด
และยังบ่งบอกว่าร่างกายของเราเป็นยังไง มีสารพิษเยอะขนาดไหน หลังจากการสแกนร่างกายแล้วเจ้าหน้าที่ถามจิ๊กว่า คุณจิ๊กได้อุดฟันสีเงินหรือป่าว พบว่าในร่างกายของคุณจิ๊กมีสารตะกั่วและสารพิษเยอะมาก ๆ เครื่องสแกนยังบงบอกด้วยว่าเราแพ้อะไรบ้าง อาหารชนิดไหนบ้าง อาจจะแพ้แป้งสาลี แพ้ถั่ว จิ๊กก็เลยงดทานถั่วและก็หลีกเลี่ยงอาหารที่มีถั่วปน แต่ถ้าเผลอไปรับประทานจะมีอาการคันมาก โดยที่ผ่านมาเรานึกว่าตัวเองผิวแห้ง ผิวแตกแต่ไม่ใช่เลยค่ะ มันคือการแพ้อาหารชนิดนั้นโดยที่เราไม่รู้ตัว พอปล่อยไปเรื่อย ๆ มันเริ่มที่จะมีการอักเสบข้างในร่างกายโดยที่เราไม่รู้เลยว่ามันอักเสบ หลังจากนั้น ส่วนทรีทเม้นท์อื่น ๆ ก็ได้ทำ H.O.T Therapy คือการฆ่าเชื้อในกระแสเลือด เสริมภูมิต้านทานในร่างกายให้แข็งแรง โดยนำเลือดของจิ๊กออกมาประมาณ 100-200 CC แล้วเค้าก็นำเลือดของจี๊กไปผ่านออกซิเจน ผ่านแสง UV แล้วก็ดึงกลับเข้าร่างกายใหม่ ความรู้สึกตอนนั้นที่เห็นเลือดของตัวเองตอนที่ถูกดูดออกมา (จิ๊กรู้สึกแย่มากนึกว่าตัวเองแข็งแรงและดูแลตัวเองดี ไม่ใช่เลยเลือดจิ๊กเหนียวมาก) เวลาเลือดเหนี่ยวอยู่ในตัวของเรา ส่งผลให้การสูบฉีดเลือดก็ไม่ดี การไหลเวียนเลือดก็ไม่ดี แล้วยังบ่งบอกถึงการที่จะเกิดโรคต่าง ๆ ที่จะตามมา เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต และโรคหัวใจ เราก็คิดว่าต่อไปนี้เราต้องป้องกันก่อนที่จะป่วยค่ะ และตอนนี้ก็กำลังจะตรวจ " Food Allergy Test " เป็นการทดสอบการมีปฏิกิริยาหรือการทดสอบความไวของร่างกายที่มีปฏิกิริยาต่ออาหาร หรือพูดกันง่าย ๆ ก็คือ การทดสอบปฏิกิริยาการแพ้อาหารนี่แหละค่ะ เราจะได้รู้ว่าแพ้อะไร จะได้หลีกเลี่ยงไม่กินสิ่งนั้น เช่น บางคนแพ้นม บางคนแพ้แป้ง ก็แล้วแต่ร่างกายของแต่ละคนด้วยค่ะ
ตอนนี้คนเรามีปัญหาเรื่องของการแพ้อาหารกันมากเหลือเกิน บางทีแค่ได้กลิ่น หรือได้สัมผัสผิวหนัง ก็จะมีปฏิกิริยาหรือมีอาการแพ้ โดยเริ่มจากเป็นผื่นคัน ลมพิษ ..รวมถึงส่งผลต่อสุขภาพ บางทีป่วยรักษาอย่างไงก็ไม่หายซะที จนกลายเป็นโรคเรื้อรัง แต่พอตรวจแบบเจาะลึกอีกทีคือเราแพ้อาหารนั่นเอง บางคนก็แพ้โดยที่แอบแฝงอยู่ค่ะ และนอกจากนี้แล้วก็มีสาเหตุเนื่องมาจากในสมัยนี้ในอาหารที่เรารับประทานกันก็ยังมีการใส่สารเคมี หรือสารปรุงแต่งรส กลิ่น และคงสภาพอาหารในลักษณะต่าง ๆ รวมทั้งการที่มนุษย์เราในทุกวันนี้ ก็มีภูมิต้านทานต่ำเหลือเกิน โดยมีสาเหตุเนื่องจากการที่เราไม่ค่อยได้ออกกำลังกายกัน และไม่ได้มีการดูแลรักษาสุขภาพกันอย่างเพียงพอ ดังนั้น การตรวจ " Food Allergy Test " เป็นเรื่องจำเป็นค่ะ จะต้องคอยระมัดระวัง ไม่ให้ตนเองได้เผลอไปสัมผัสกับอาหารประเภทดังกล่าว ในทางใดทางหนึ่งจนทำให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพร่างกายของตนขึ้นมาได้
ที่สำคัญที่จิ๊กได้ไปศึกษามาเบื้องต้นแล้วค่ะ การแพ้อาหารแบบแอบแฝง ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราด้วย เช่นปวดศีรษะเรื้อรัง ไมเกรน, สมาธิสั้น , คัดจมูก น้ำมูกไหล หอบหืด ปวดกล้ามเนื้อ เกิดความผิดปกติทางระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคแพ้ภูมิตนเอง, โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ที่สำคัญค่ะสำหรับผู้หญิงเราบางคนที่ลดน้ำหนักและไม่ลงซักที แล้วผลเป็นอย่างไรจะเอามาเล่าให้ฟังกันค่ะ
สำหรับตัวจิ๊กเองชอบแนวทางการรักษาแบบใหม่ ๆ ชอบอะไรที่มันใช่และถูกวิธี ทำให้สุภาพแข็งแรงค่ะ ฉะนั้นชีวิตคนเราที่ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ ยังมีพลังที่ดี ๆ อยู่ ยังมีรอยยิ้มที่สวยงามและเราต้องทำชีวิตให้ดีขึ้น แล้วเดินไปหาสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่ถูกต้องคือ รักชีวิตให้มาก ๆ และชีวิตจะประสบความสำเร็จในทุกเรื่องรวมถึงเรื่องสุขภาพด้วยค่ะ
ตั้งสติรับมือกับมันให้ดี แล้ววันไหนเราเกิดโรคภัยไข้เจ็บเราไม่ต้องไปกลัวมัน โรคทุกอย่างเมื่อมันเกิดขึ้นมาได้ โรคทุกอย่างก็มีวันจากไปได้ แต่ต้องรักษาให้ถูกวิธีค่ะ
วิธีการอื่น ๆ ที่จิ๊กปฎิบัติเป็นประจำค่ะ นั่นก็คือการออกกำลังกาย จิ๊กจะมีท่าการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองค่ะ เมื่อมีเวลาว่างไม่ว่าจะอยู่ที่กองละครหรือที่บ้าน จิ๊กก็จะทำอย่างสม่ำเสมอค่ะ รวมถึงทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายนะค่ะ พออายุมากขึ้น เลี่ยงอาหารรสจัดค่ะ เค็มจัด หวานจัด เผ็ดจัด ไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ และก็ต้องเลี่ยงอาหารประเภทแป้งด้วยนะค่ะ มันจะทำให้อ้วนได้ค่ะ
สุดท้ายตัวจิ๊กก็เป็นหนึ่งในจิตอาสา เป็นกำลังใจให้กันและกัน ขอฝากถึงจิตอาสาทุก ๆ ท่าน จิตอาสาก็คือ จิตที่สะอาดพร้อมที่จะทำงานให้กับคนอื่น ๆ เช่น คนป่วย คนไม่สบายและสุขภาพไม่ดี ต้องการคำพูดที่ดีกับรอยยิ้มให้กำลังใจ เชื่อไหมค่ะ สามารถเป็นยาเท่ากับหนึ่งเม็ดให้เขาได้หัวเราะและพบกับความสุข
เข้าสู่ระบบ
Create New Account