จากกระแสเรื่องไวรัสเลยทำให้ประเด็นเรื่องฝุ่นพิษดูเหมือนคนจะให้ความสนใจน้อยลง ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงตอนนี้ระดับ PM2.5 มีระดับที่สูงขึ้น และขยายวงกว้างมากขึ้น จากกระแสลมเหนือ กอปรกับ การเผาไหม้ขยะ การเผาหญ้าแห้ง และไฟป่าก็ยังเกิดขึ้นเรื่อย ๆ
ซึ่งสิ่งที่มากับฝุ่นขนาดเล็กนี้ก็คือ สารพิษโลหะหนักแบบเดียวกับที่พบในควันบุหรี่ ควันธูป สารไฮโดรคาร์บอน ไดออกซิน ซึ่งล้วนเป็นสารก่อมะเร็ง และทำให้เม็ดเลือดขาวอ่อนแอลงทั้งสิ้น
ดังนั้น สมมติเมื่อเกิดการระบาดของไวรัสโคโรนา หรือเชื้อโรคอื่น ๆ อย่างไข้หวัดใหญ่ เองก็ตาม ผู้ที่อาศัยในแถบพื้นที่เสี่ยงฝุ่น PM2.5 ก็อาจจะติดเชื้อและเกิดภาวะแทรกซ้อนง่ายขึ้นจากภูมิต้านทานที่อ่อนแอลง อันเนื่องจากตอนนี้เราได้สูดรับ PM2.5 กันเข้าไปแล้ว
การป้องกัน PM2.5 เท่าที่พอทำได้
-
คงต้องกลับมาที่การสวมหน้ากาก
-
ติดตั้งเครื่องกรองอากาศ
-
งดกิจกรรมกลางแจ้งทุกชนิด
-
งดการเผาหญ้า การเผาขยะในที่แจ้ง ใช้การฝังหรือไถกลบแทน
-
ลดการจุดธูป กระดาษเงิน กระดาษทอง
ส่วนการขับสารพิษ PM2.5 ที่รับเข้าไปแล้วนั้น มีการศึกษาว่าสารอาหารในบร็อคโคลี่ ช่วยขับสารพิษได้ นอกจากนี้ ยังพบว่า การบำรุงตับให้แข็งแรง หรือกลุ่มสารอาหารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระก็จะช่วยลดความรุนแรงของสารพิษต่อสุขภาพได้ ซึ่งสารอาหารที่ฤทธิ์ต้านพิษ ได้แก่
- Resveratrol ที่พบในเปลือกองุ่น
- Quercitine ที่พบในเปลือกหอมแดง หรือเปลือกแอปเปิ้ล
- Vitamin C,E,A ,Selenium, Alpha Lipoic Acid, Glutathione,Co enzyme Q10 ,Astaxantine, Beta Carotene
- สารรงควัตถุสีเขียว คลอโรฟิลล์ ที่พบในผักใบเขียว สาหร่ายสไปรูไลนา สาหร่ายคลอเรลลา ต้นอ่อนข้าวสาลี แม้กระทั่งใน ผักชี ผักทแยง ใบย่านาง มีคุณสมบัติขับสารพิษโลหะหนักได้
ช่วงนี้ เราเผชิญวิกฤตเกี่ยวกับสุขภาพกันค่อนข้างมาก ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอย่าให้เจ็บป่วย อย่าลืมว่า อโรคยา ปรมา ลาภา “ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ” นะครับ
เข้าสู่ระบบ
Create New Account