ซ่อมเซลล์สมอง ช่วยลดสั่นปัญหาพาร์กินสัน

โทรศัพท์ : 026515988
ซ่อมเซลล์สมอง ช่วยลดสั่นปัญหาพาร์กินสัน
พญ.ส่งแสง กาญจนวิสิษฐผล ปริญญาโทการแพทย์แผนเยอรมันและแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านแพทย์บูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย
ซ่อมเซลล์สมอง ช่วยลดสั่นปัญหาพาร์กินสัน

โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s Disease) เป็นภาวะความเสื่อมของเซลล์สมอง ในส่วนก้านสมองที่เรียกว่า         ซับสแตนเชียร์ไนกร้า พาร์ คอมแพกต้า (Substantia Nigra Pars Compacta) ซึ่งเซลล์สมองนั้นมีหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหว และผลิตสารสื่อประสาทชื่อโดปามีน (Dopamine) จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนไข้พาร์กินสันจึงมีอาการสั่น เกร็ง ใบหน้าเรียบเฉย เคลื่อนไหวช้า และโดยเฉพาะมีอาการมือสั่นขณะพัก โรคพาร์กินสันส่วนใหญ่จะพบในผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป หากไม่รักษาส่วนใหญ่จะเกิดอัลไซเมอร์ตามมา

อาการหลัก ๆ ที่พบบ่อย เช่น 

  • การเคลื่อนไหวช้า การ ยืน เดิน นั่ง โดยเฉพาะเมื่อเริ่มต้นเคลื่อนไหว เช่น จากเดิมอยู่ในท่านั่งและต้องการจะลุกเดิน ในก้าวแรกจะก้าวได้ช้ามาก ๆ แต่พอก้าวได้แล้วจะสามารถไปต่อได้เรื่อย ๆ 

  • การหยุดเดินทำได้ยาก เมื่อเริ่มก้าวเดินแล้วจะไม่สามารถหยุดได้ทันทีทันใด ต้องค่อยๆ ชะลอความเร็วจึงจะสามารถหยุดได้ 

  • ก้าวเท้าถี่ๆ ในขณะเดินคนไข้พาร์กินสันจะก้าวเท้าสั้นๆ ถี่ๆ 

  • มีอาการสั่นขณะพัก เช่น ขณะนั่งนิ่ง ๆ มือจะสั่น แต่ถ้าเคลื่อนไหวหยิบสิ่งของมือจะไม่สั่น 

  • อาการแข็งเกร็ง เช่น ใบหน้าแข็งเกร็งไร้ความรู้สึก ไม่สามารถแสดงความรู้สึกทางใบหน้าได้ตามที่ใจรู้สึก

…อย่าลืมลองสำรวจคนรอบตัวว่ามีใครเข้าข่ายอาการข้างต้นบ้าง... 

สาเหตุคืออะไร

1. สารพิษสะสมในร่างกาย เช่น จากผงชูรส ยาฆ่าแมลง โลหะหนัก

2. ภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัว ซึ่งเกิดจากมีคราบตะกรันไขมัน (Plaque) ไปเกาะที่หลอดเลือดจึงส่งผลให้ช่องทางเดินของน้ำเลือดแคบลง ทำให้เลือดใช้เวลาเดินทางมากกว่าเดิม ผลคือ เซลล์สมองได้รับออกซิเจนและสารอาหารช้ากว่าปกติ

 3.สารเคมีสะสมจากผลข้างเคียงของยาหลายชนิด ผลกระทบจากการใช้ยา เช่น จากการทานยาลดความดันโลหิตสูงซึ่งมีหลายชนิด ยานอนหลับหลาย ๆ ชนิด ยาต้านความเศร้าบางชนิด และยาเคมีหลายชนิด เป็นต้น   

เมื่อเลือกรักษาแบบการแพทย์บูรณาการ

     สำหรับการรักษาของทางศูนย์ฯ เราจะให้ความสำคัญตั้งแต่การตรวจวินิจฉัย เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุหลักว่ามีที่มาจากอะไร โดยส่วนใหญ่คนไข้ที่เข้ามารับการรักษาจะผ่านการรักษาด้วยการแพทย์แบบทั่วไปและอาการทรงๆ ตัวหรือบางรายอาจมีอาการไตเสื่อมตามมา ดังนั้นการตรวจของเราจึงต้องประกอบร่วมกันทั้งข้อมูลที่ได้จากการพูดคุยซักประวัติ และการตรวจทางห้องปฏิบัติเพิ่มเติม เช่น การตรวจสารโลหะหนัก ตรวจค่าความอักเสบของเส้นเลือด ตรวจ MRI สมอง เป็นต้น เพื่อให้ได้ข้อมูลอย่างรอบด้าน

      การรักษาของทางศูนย์มีด้วยกันหลายวิธี โดยพิจารณาตามความเหมาะสมของคนไข้แต่ละราย แต่ทั้งนี้ ในส่วนที่เป็นการรักษาหลักคือจะใช้กลูตาไธโอน ไตเตชั่น (Glutathione titration) ร่วมกับการรักษาด้วยเซลล์ซ่อมเซลล์ (Cell heals CPT/FCT Therapy) เนื่องจากการค้นคว้าทางการแพทย์พบว่า Glutathione titration มีฤทธิ์สำคัญที่เรียกว่า กลไกทำงานภายใน (Intrinsic mechanisms) เป็นกลไกในการซ่อมแซมแบบนิวโร รีเจอเนเรชั่น (Neuro Regeneration) ส่วนเซลล์ซ่อมเซลล์ที่สามารถพุ่งเป้าเข้าไปซ่อมแซมเซลล์สมองในส่วนของก้านสมองได้โดยตรง 

     เมื่อคนไข้ได้รับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉลี่ยประมาณ 6 เดือนไปแล้ว อาการจะเริ่มดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งสิ่งที่คนไข้และญาติจะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ เช่น คนไข้อารมณ์ดีขึ้น สามารถแสดงอารมณ์ทางใบหน้าได้ การเคลื่อนไหวที่เคยช้า ๆ ก็ดีขึ้นในลักษณะที่เกือบเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาในการรักษาและผลการรักษาจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล  

หัวใจหลักในการดูแลคนไข้ที่ญาติควรให้ความสำคัญ 

      มีความเข้าใจ ใส่ใจ และช่วยดูแลในการทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างช้า ๆ เพื่อสอดคล้องกับอาการของคนไข้ เช่น คนไข้ทานอาหารช้า ควรค่อย ๆ ป้อน หรืออย่าเร่งให้ต้องรีบทาน เพราะหากให้รีบทานอาจสำลักและมีผลจนทำให้ขาดอากาศหายใจ และเสียชีวิตได้ในที่สุดเลยทีเดียว  

     เมื่อใดก็ตามที่คุณหรือคนใกล้ชิดป่วยด้วยโรคพาร์กินสัน อย่าละเลย ต้องรีบเข้ารับการรักษาอย่างตรงจุด     เพราะยิ่งความเสื่อมของเซลล์สมองมีมากขึ้น การรักษาก็ย่อมยากตามไปด้วย ฉะนั้น อย่าลืมสังเกตความผิดปกติ          แม้จะไม่มีอาการใด ๆ ก็ยังต้องใส่ใจดูแลสุขภาพอยู่เสมอ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงสาเหตุอันจะนำไปสู่ปัญหา                   โรคพาร์กินสันได้ในอนาคต


SEND A MESSAGE
Your email address will not be published. Required fields are marked.
CALL US : 02 651 5988
Select AH Find Dr Contact Us