เกิดเป็นคนวัยทำงานยุคนี้ นอกจากต้องให้ความสำคัญกับการเจ็บป่วยทางกายแล้ว ก็ต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตด้วย เพราะถ้าจิตใจดีร่างกายของเราก็จะดีเช่นกัน ฉะนั้นถ้าอยากให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วย ทำงานได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ จนได้รางวัลจากเจ้านายแบบปัง ๆ ถึงคราวต้องดูแลสุขภาพใจให้แข็งแรงและห่างไกลจากอาการป่วยจิต ป่วยใจ ด้วยโรคยอดฮิตทางจิตใจที่คนวัยทำงานมักเป็นกันแล้วล่ะ
อาการป่วยทางใจแบบไหนที่พบได้บ่อยในคนทำงาน และจะหลีกเลี่ยงจากโรคเหล่านั้นได้อย่างไร ลองสำรวจตัวเอง พร้อมหาแนวทางในการรักษาและฟื้นฟูจากบทความนี้กัน
โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ (Attention Deficit Hyperactivity Disorder: ADHD) โรคสมาธิสั้นไม่ใช่เพียงปัญหาที่พบในเด็ก แต่ยังสามารถเกิดขึ้นกับวัยทำงานด้วย โดยมีอาการที่สังเกตได้ดังนี้ คือขาดสมาธิในการทำงาน (Inattention) กระตุ้นตัวเองมากเกินไป (Hyperactivity) หุนหันพลันแล่น (Impulsivity) ที่มีสาเหตุหลัก ๆ เกิดจาก ปัจจัยทางด้านสภาพแวดล้อมที่มีความเครียดสูง ขาดการสนับสนุนทางสังคม หรือประสบปัญหาทางอารมณ์ที่รุนแรงในวัยเด็ก อาจมีส่วนกระตุ้นให้เกิดในตอนโต รวมถึงปัจจัยเรื่องความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง เช่น Dopamine และ Norepinephrine ที่ส่งผลต่อความสามารถในการควบคุมความสนใจและพฤติกรรม รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดหรือเพิ่มความรุนแรงของอาการสมาธิสั้นได้
ความน่ากลัวของโรคสมาธิสั้นในวัยทำงาน คือ ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ทำงานไม่เสร็จสมบูรณ์ ทำผิดพลาดบ่อย เกิดความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน และพบความยากลำบากในการจัดการงาน การโฟกัสงาน รวมถึงการดำเนินชีวิตประจำวัน
โรควิตกกังวลและแพนิค (Panic Disorder) เป็นภาวะเครียดที่เกิดจากความวิตกกังวลมากกว่าปกติ ซึ่งเกิดได้กับคนทั่วไป แต่พบได้บ่อยในคนวัยทำงาน โดยมีสาเหตุเกิดได้จาก ปัจจัยด้านพันธุกรรม ปัจจัยด้านฮอร์โมน ระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง อาจทำให้สารเคมีในสมองเสียสมดุลการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติผิดปกติไป ปัจจัยจากการทำงาน เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล ล้วนแล้วแต่เป็นผลที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพนิคได้ เช่น การใช้ชีวิตที่เร่งรีบ ทำงานกับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออยู่กับมือถือเป็นเวลานาน พักผ่อนน้อย ไม่ออกกำลังกาย หรือต้องเผชิญกับสภาวะกดดัน เป็นต้น
โรควิตกกังวลทั่วไป (Generalized Anxiety Disorder) เป็นโรคที่เกิดจากความกังวลมากกว่าปกติในเรื่องทั่วไปในชีวิตประจำวัน หากผู้ป่วยยังมีอาการนานเกินกว่า 6 เดือน อาจทำให้เกิดความอ่อนเพลีย กระวนกระวาย ไม่มีสมาธิ และนอนไม่หลับจนส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานได้
ภาวะหมดไฟในวัยทำงาน (Burnout) เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อรู้สึกหมดแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ เนื่องจากต้องทำงานอย่างหนัก หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่ดีเป็นเวลานาน ภาวะนี้มักจะมาพร้อมกับอาการ เช่น เหนื่อยล้า รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีกำลังจะทำงานหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ เกิดความเบื่อหน่ายและไม่มีความสุขในการทำงาน ประสิทธิภาพการทำงานลดลง มีปัญหาในการตั้งสมาธิ หรือการตัดสินใจ มีปัญหาทางอารมณ์ รู้สึกหดหู่ เครียด หรือโกรธง่าย เป็นต้น
3 วิธีฟื้นฟูสุขภาพจิตของคนวัยทำงาน ด้วยการแพทย์แบบบูรณาการ
- การฟื้นฟูด้วยวิตามินและอาหารเสริมที่เหมาะสม การทำงานภายใต้ความเครียดและความกดดัน รวมถึงการทำงานที่ต้องใช้สมองคิด อาจทำให้คนวัยทำงานมีปัญหาสุขภาพตามมา การทานวิตามินเสริมอย่างเหมาะสม
- ดริปวิตามิน สำหรับวัยทำงานที่ต้องการการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ การดริปวิตามิน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างเร่งด่วน เพราะร่างกายจะดูดซึมไปใช้ได้เร็วและมีประสิทธิภาพ
- เครื่องคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า TMS : Transcranial Magnetic Stimulation เป็นการกระตุ้นเซลล์สมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยกระตุ้นสมองผ่านกะโหลกศีรษะ โดยคลื่นแม่เหล็กจะเข้าไปเหนี่ยวนำเส้นประสาททำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการทำงานของระบบประสาท (Functional) และยังช่วยกระตุ้นสมองให้หลั่งสาร Serotonin, Dopamine และ Opioid ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยในการทำงานของสมอง ทำให้สมองกลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง
นอกจากวิธีการรักษาและฟื้นฟูด้วยวิธีดังกล่าวแล้ว แนะนำว่าควรจัดการเวลาในการทำงานให้เหมาะสม หาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ หาเวลาออกกำลังกาย ฝึกสมาธิ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลาย รวมถึงพูดคุยและขอความช่วยเหลือ เพราะ การใส่ใจและดูแลสุขภาพจิตเป็นการลงทุนที่มีคุณค่าอย่างยิ่งในยุคที่การทำงานมีความท้าทายเช่นนี้
เข้าสู่ระบบ
Create New Account