บางครั้งปัญหาอาการปวดหลัง และปวดเข่า เป็นมากกว่าอาการปวดในชีวิตประจำวัน จึงต้องใส่ใจสัญญาณความผิดปกติให้มาก เพราะถ้าปล่อยไว้นาน โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และ โรคข้อเข่าเสื่อม อาจมาเยือน
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น กระดูกข้อเข่าเสื่อมสภาพ ทำให้เข่ารองรับน้ำหนักไม่ได้เช่นเดิม น้ำหล่อเลี้ยงเข่าก็ไม่มี ยิ่งต้องเคลื่อนไหวข้อเข่าเยอะหรือออกกำลังกายหนัก ข้อเข่าก็จะเกิดการเสียดสีและเกิดการสึกหรอของกระดูกอ่อนทำให้เกิดเสียงดังกรอบแกรบขึ้น
ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ มีอาการข้อเข่าบวม อาการปวดเข่า รู้สึกเสียว ตึง ขัด ๆ ที่เข่าเมื่อเคลื่อนไหว ถ้าปล่อยไว้ไม่ดูแลจนถึงขั้นเข่าเสื่อมมาก ก็อาจมีปัญหาขาโก่งได้ และถ้าปล่อยทิ้งไว้ให้ข้างหนึ่งเสื่อม อีกข้างที่เหลือทำงานหนัก ข้างที่ดีทำงานหนักเกินไปอาจเสื่อมตามไปได้เช่นกัน ทางที่ดีรีบรักษาจะดีกว่า
“ปวดหลังร้าวลงขา” ปล่อยไว้ไม่ปลอดภัย เพราะอาจเสี่ยง “โรคหมอนรองกระดูก”
อาการปวดหลังเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยมากมีสาเหตุจาก การยกของหนัก หรือท่าทางการเคลื่อนไหวที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าไม่มีอะไรต้องกังวล อย่างไรก็ตามสำหรับอาการปวดหลังจะหายหรือทุเลาลงใน 1-2สัปดาห์ แต่หากมีอาการปวดร้าวลงขาแบบเฉียบพลัน นั่นถือว่าเป็นสัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม เพราะคุณอาจกำลังมี ภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทจากการที่หมอนรองกระดูกปลิ้น ออกมากดทับเส้นประสาทที่อยู่หลัง ซึ่งเมื่อมีการกดทับบริเวณนั้นแล้วก็จะไปกดทับบริเวณเส้นประสาททำให้มีอาการเจ็บแปลบและปวดร้าวลงที่ปลายขาร่วมด้วย และหากมีอาการเช่นนี้จึงไม่ควรปล่อยไว้ ควรเข้ารับการรักษาเพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด
ปัญหาโรคข้อเข่าเสื่อม และกระดูกสันหลังเสื่อมนั้น หากปล่อยไว้นาน ๆ โดยไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที อาจทำให้ขาอ่อนแรง ปวดหลังจนลุกเดินไม่ได้ และถ้ารุนแรงเข้าอาจต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด
อย่างไรก็ตามยังมีผู้ป่วยหลายคน โดยเฉพาะผู้ป่วยสูงอายุ ที่ไม่ต้องการฟื้นฟูปัญหาเหล่านี้ด้วยการผ่าตัด เพราะรู้สึกว่าจะต้องเจอกับความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดซ้ำอีก หลังจากที่ต้องเจอกับความเจ็บปวดจากอาการปวดของโรคแล้ว ทำให้หลายคนเลือกที่จะเลี่ยงการรักษาด้วยวิธีนี้ และมองหาวิธีการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด
เพราะเข้าใจถึงความต้องการของผู้ป่วยที่ไม่ต้องการรักษาด้วยการผ่าตัด และรู้ดีว่าการรักษาโรคนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การทานยา หรือการผ่าตัดเพียงเท่านั้น แต่การรักษายังมีทางเลือกโดยไม่ต้องผ่าตัดอีกด้วย ซึ่งวิธีการดังกล่าวก็คือ การรักษาด้วยแนวทางการแพทย์แบบบูรณาการ ซึ่ง เราให้ความสำคัญกับการรักษาโดยการค้นหาสาเหตุที่ซ่อนอยู่ ไม่ใช่แค่เพียงการบรรเทาอาการเหมือนที่เคยเป็นมา
การรักษานั้นจะเป็นการวางแผนการรักษาแบบเฉพะบุคคลซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่ การรักษาโดยการทำกายภาพบำบัดที่ลงลึก
Platelet Special Factors (PSF) การนำเกล็ดเลือดของตนเอง มาผ่านขบวนการกระตุ้นให้ออกฤทธิ์มากขึ้น หลังจากนั้นก็ฉีดกลับไปยังจุดที่ต้องการรักษา โดยเกล็ดเลือดจะมีการสร้าง Growth Factor ออกมา เพื่อดึงดูดเซลล์ให้วิ่งมาซ่อมเนื้อเยื่อในจุดที่ฉีด เพื่อช่วยซ่อมแซม เนื้อเยื่อที่เสื่อมหรือบาดเจ็บ
Pain Management การฟื้นฟูปัญหาอาการปวดด้วยเครื่องมือกายภาพบำบัดต่อไปนี้
เครื่อง Focus Shock Wave และ เครื่อง Shock Wave รักษาอาการปวดโดยพลังงานคลื่นกระแทก เพื่อให้ร่างกายเกิดการฟื้นตัวและบำบัดตัวเอง โดยการสร้างเส้นเลือด และเส้นประสาทใหม่
เครื่อง High Power Laser พลังงานแสงเลเซอร์ผ่านผิวหนังลึกลงสู่บริเวณที่มีอาการปวดหรืออักเสบ เพื่อไปกระตุ้นที่ปลายประสาทและลดอาการเจ็บปวด
เครื่อง PMS (Peripheral Magnetic Stimulation) การส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าไปกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ช่วยลดอาการปวดได้ดีในกลุ่มคนที่หมอนรองกระดูกเคลื่อน ปวดชา หรือเกร็งกล้ามเนื้อจากอัมพฤกษ์ อัมพาตเป็นต้น
Prolotherapy การฉีดสารละลายที่มีความเข้มข้นสูง ฉีดไปยังจุดที่มีปัญหา โดยเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเร่งซ่อมแซมบริเวณที่มีปัญหาตามกระบวนการฟื้นฟูและรักษาตามธรรมชาติ
การใช้สารเปปไทด์ชีวภาพ ฉีดเข้าไปลดความเสื่อม ฟื้นฟูและซ่อมบำรุง อวัยวะที่บาดเจ็บและมีปัญหาให้กลับมาทำงานได้ใหม่
ถ้าคุณอยากจบปัญหาอาการปวด ด้วยทางเลือกแห่งการรักษาที่ช่วยฟื้นฟูปัญหาได้อย่างลงลึกถึงต้นเหตุ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องทานยา ไม่ต้องเจ็บตัวซ้ำแล้วซ้ำอีกจากการผ่าตัด ลองเข้ามาให้ทีมแพทย์ ที่ Absolute Health ของเราที่ประกอบด้วยแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกและข้อ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู และแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการแพทย์บูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย ซึ่งทำงานร่วมกับนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์มาอย่างมากมายของเราได้ดูแลคุณ
เข้าสู่ระบบ
Create New Account