ลดความสูญเสียจากโรคมะเร็ง ด้วยแนวทางการแพทย์บูรณาการ

โทรศัพท์ : 026515988
ลดความสูญเสียจากโรคมะเร็ง ด้วยแนวทางการแพทย์บูรณาการ
นพ.ศิต เธียรฐิติ แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการแพทย์บูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย
ลดความสูญเสียจากโรคมะเร็ง ด้วยแนวทางการแพทย์บูรณาการ

โรคมะเร็ง โรคที่เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยและคนไทย เพราะเป็นโรคที่มีสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่ง ของประเทศ อีกทั้งยังพบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นถึงวันละ 336 คน หรือเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 122,757 คนต่อปี มีอัตราการเสียชีวิตวันละ 215 คน หรือ 78,540 คนต่อปี เฉลี่ยแล้วชั่วโมงละ 8 ราย และปัจจุบันในประเทศไทยพบว่ามะเร็งที่พบบ่อยในชายไทยประกอบด้วย มะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งตับและท่อน้ำดี และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ขณะที่ในผู้หญิงมะเร็งที่พบมากเป็น 5 ลำดับต้น จะเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปอด และมะเร็งตับ (ที่มา : กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข)



สาเหตุที่พบว่ามะเร็งเป็นโรคยอดฮิตติดอันดับในการคร่าชีวิต และบั่นทอนสุขภาพของคนไทยเป็นลำดับต้น ๆ นั่นก็เป็นเพราะว่า โรคมะเร็งเป็นโรคที่ไม่แสดงความผิดปกติหรืออาการใด ๆ ออกมาให้ผู้ป่วยได้รู้ตัวเลย จะรู้ตัวอีกครั้งก็เมื่อมันเริ่มจะมีอาการ เช่น เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลีย ตรวจพบก้อนหรือความผิดปกติ ซึ่งส่วนมากแล้วจะรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งก็ต่อเมื่อเข้าสู่ระยะลุกลามไปแล้ว จึงทำให้ผู้ป่วยมีอัตราการเสียชีวิตที่สูง และทำให้โรคมะเร็งได้รับการขนานนามว่า “มัจจุราชเงียบ” ลำดับที่หนึ่งไปครอง เพื่อหลีกหนีให้ไกลจากโรคมะเร็งมหันตภัยร้ายทางสุขภาพนี้ เราอยากให้คุณได้ทำความรู้จักกับมันก่อนที่มันจะรู้จักกับเรานะครับ

โรคมะเร็งเป็นโรคที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนของเซลล์ในร่างกายและความบกพร่องของระบบเผาผลาญในเซลล์ อันเนื่องจากการที่ร่างกายมีปัจจัยเข้ามากระตุ้นทำให้เซลล์นั้นไม่สามารถทำงานได้ปกติ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยจากสารพิษ สารเคมี อนุมูลอิสระ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ เป็นปัจจัยที่มากระตุ้นและรบกวนเตาปฏิกรณ์พลังงานของเซลล์ที่เรียกว่า “ไมโทคอนเดรีย” จึงทำให้ระบบการเผาผลาญบกพร่อง เซลล์ไม่สามารถผลิตพลังงานได้ดี อีกทั้งยังเกิดการเปลี่ยนแปลงกลายพันธุ์และขยายตัว ก่อเกิดเป็นเซลล์ที่ผิดปกติ ทำให้ "สวิตซ์ยีนพันธุกรรมของมะเร็ง” ถูกเปิดขึ้น และท้ายที่สุดเนื้องอกและเซลล์มะเร็งเซลล์แรกในร่างกายก็ถือกำเนิดขึ้นมา

 จึงกล่าวได้ว่า “โรคมะเร็ง นั้นแท้ที่จริง คือ ความบกพร่องของระบบเผาผลาญของเซลล์ ตลอดจนการเสื่อมและถดถอยลงของระบบภูมิต้านทานนั่นเอง”

รักษาโรคมะเร็งในแบบบูรณาการ ( Regenerative Medicine )

เมื่อเราทราบถึงการกำเนิดของเซลล์มะเร็งแล้ว ดังนั้น การรักษาโรคมะเร็ง จึงไม่ควรมุ่งเป้าไปที่การผ่าตัดเพื่อกำจัดก้อนเนื้อ หรือการให้เคมีบำบัดและรังสีรักษาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ควรต้องศึกษาข้อมูลให้ไปถึงต้นตอ และสาเหตุของการเกิดโรคร่วมด้วย "ผลลัพธ์ของการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"



ตามแนวทางการแพทย์แบบบูรณาการ (Integrative Medicine)

การรักษาจะแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนหลักซึ่งผลลัพธ์ของการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

  1. .การทำลายเซลล์มะเร็ง นอกเหนือจากการผ่าตัด การฉายแสง การทำเคมีบำบัด ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้รักษาคนไข้มะเร็งส่วนใหญ่ในโรงพยาบาลแล้วในแง่ของการแพทย์แบบบูรณาการก็ยังวิธีการรักษาและการทำลายเซลล์มะเร็ง ในวิธีอื่น ๆ อีก เช่น การให้วิตามินซีความเข้มข้นสูง การใช้วิตามินบี 17 หรือ (Amygdalin) รวมไปถึงการใช้เทคนิคใหม่ ๆ ของการรักษาที่เรียกว่า การรักษามะเร็งแบบพุ่งเป้า (IPT) ซึ่งเป็นการใช้ลักษณะของมะเร็งที่กินน้ำตาลเก่งมาเป็นจุดเด่น โดยการหลอกล่อให้เซลล์มะเร็งเข้าไปเปิดประตูน้ำตาลของเขา เพื่อที่จะได้บริหารยาเคมีบำบัด หรือยาที่ทำลายมะเร็ง พุ่งเป้าไปทำลายเฉพาะเซลล์มะเร็ง โดยไม่ทำร้ายหรือทำลายให้เกิดการบาดเจ็บกับเซลล์ปกติ รวมไปถึงการใช้แสงสีบำบัดเข้ามากระตุ้นทำให้เซลล์มะเร็งฝ่อไปได้ด้วย 
                                                                         
    อย่างไรก็ตามการรักษาด้วยการทำลายเซลล์มะเร็งด้วยวิธีดังกล่าวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากโรคมะเร็งนั้นเป็นโรคที่มีการปรับเปลี่ยนตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพราะหากเซลล์โดนทำลายแล้ว แต่ทำลายไม่หมดเซลล์ก็จะมีการพัฒนาตัวเองต่อทำให้ดื้อยา หรือดื้อต่อการฉายแสงนั้น จึงจำเป็นต้องรักษาด้วยเทคนิคต่อไป ซึ่งเทคนิคที่ว่า ก็คือ

  2. การใช้ภูมิต้านทานบำบัด ภูมิต้านทานบำบัดนับว่าเป็นหัวใจหลักสำคัญของการรักษาโรคมะเร็ง เพราะว่าสาเหตุหนึ่งของการเป็นมะเร็ง ก็เป็น เพราะว่าภูมิต้านทานของร่างกายคนไข้อ่อนแอลง ไม่สามารถจัดการกับเซลล์มะเร็งที่เกิดขึ้นหรือตกค้างอยู่ในตัวได้ ดังนั้น การทำให้ภูมิต้านทานของคนไข้กลับมาแข็งแรงขึ้น จึงเป็นสิ่งจำเป็น ทั้งการดูแลเรื่องโภชนาการ การกระตุ้นด้วยโอโซน การใช้ Cytokine บำบัด หรือแม้กระทั่งเทคนิคใหม่ ๆ ของการรักษาด้วย CPT/FCT Therapy ไม่ว่าจะเป็นการบำบัดด้วยเซลล์เพชฌฆาต หรือ การทำวัคซีนเสริมภูมิ การใช้โมเลกุลทางชีวภาพกระตุ้นการทำงานของเซลล์ระบบภูมิคุ้มกัน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเทคนิคที่จะไปกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวของคนไข้แข็งแรงขึ้น และจัดการกับเซลล์มะเร็งที่หลงเหลืออยู่ได้


                                                                   
  3. การลดปัจจัยต้นตอของมะเร็ง หากไม่อยากป่วยด้วยโรคมะเร็งเราต้องแก้ไขปัจจัยต้นตอของการเกิดโรค ด้วยการปรับสมดุลของร่างกาย โดยหลีกเลี่ยงการนอนดึกลดละความเครียด หมั่นออกกกำลังกายเพื่อเสริมภูมิต้านทาน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารกลุ่มเสี่ยง เช่น อาหารปิ้งย่าง อาหารแปรรูป อาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูงอาหารทอดซ้ำ ซึ่งเป็นอาหารกลุ่มที่มีอนุมูลอิสระ อันเป็นต้นตอของโรคมะเร็ง

จะเห็นได้ว่าเราทุกคนในสังคมปัจจุบันนั้นล้วนแล้วแต่อยู่ในความเสี่ยงของมะเร็งด้วยกันทุกคน เพราะสภาวะแต่ละอย่างนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ทั้งจากสารพิษ มลภาวะ สิ่งแวดล้อม ความเครียดต่าง ๆ ก็ล้วนแล้วแต่เหนี่ยวนำให้เราเกิดอนุมูลอิสระได้ทั้งสิ้น และยิ่งถ้าได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาด้วยแล้วก็ยิ่งจะเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นเป็นทวีคูณ ดังนั้น ทางที่ดีเราจึงควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ด้วยการควบคุมความเครียดและปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงพยายามสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกาย และที่สำคัญควรเข้ารับการตรวจคัดกรองสุขภาพเพื่อหาความเสี่ยงของโรคที่อาจจะมาเยี่ยมเยือนเราแบบไม่คาดคิด เพราะยิ่งเรารู้ไวเราก็จะยิ่งรับมือกับมันได้ดียิ่งขึ้น

SEND A MESSAGE
Your email address will not be published. Required fields are marked.
CALL US : 02 651 5988
Select AH Find Dr Contact Us