สำหรับผู้ป่วยเบาหวานและ ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ความหวาน เป็นสิ่งที่ต้องควบคุมในคนกลุ่มนี้ เป็นอย่างมาก แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ ทั้งที่รู้ว่าติดหวานมากไปมันไม่ดี แต่ยังไงก็อยากทานหวาน จึงต้องหา “น้ำตาลทดแทน” มาใช้ในอาหาร แต่จะเลือกความหวานทดแทนจากแหล่งไหน ให้เหมาะสม นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับสารให้ความหวานหรือน้ำตาลทดแทน 3 ชนิดที่เราอาจเคยได้ยินผ่านหูบ่อย ๆ มากฝากกัน
สตีเวีย (Stevia) หรือ หญ้าหวาน ให้พลังงานน้อยมาก มีความหวานมากกว่าน้ำตาลทรายถึง 200 เท่า ที่สำคัญสกัดจากธรรมชาติ ข้อดีของสตีเวียนอกจากจะใช้ใส่ในเครื่องดื่มได้แล้ว ยังใช้ปรุงอาหารที่ผ่านความร้อนได้ เพราะทนความร้อนได้ถึง 200 องศาเซลเซียส
แอสพาร์แตม (Aspartame) หวานมากกว่าน้ำตาลทราย 180-200 เท่า มีข้อดีคือรสชาติเหมือนน้ำตาล ทานแล้วไม่กระตุ้นน้ำตาลในเลือดให้ขึ้นสูง แต่มีข้อเสีย คือ สลายตัวในความร้อน
ซูคราโลส (Sucralose) เป็นสารให้ความหวานที่ไม่มีพลังงาน ที่หวานกว่าน้ำตาลทรายประมาณ 600 เท่า โดยเป็นสารที่ได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา(FDA)ให้ใช้เป็นสารให้ความหวานทั่วไปได้ เพราะว่า ปลอดภัยไม่มีสารสะสมในร่างกาย ข้อดีของ ซูคราโลส คือ รสชาติคล้ายน้ำตาล ไม่ขมติดลิ้น ไม่มีพลังงาน ใช้ปรุงอาหารที่ผ่านความร้อนได้ แต่มีข้อด้อย คือ อาจกระตุ้นอาการปวดศีรษะไมเกรนได้ในบางคน
เมื่อรู้ข้อแตกต่างกันของน้ำตาลแต่ละชนิด ก็ลองเลือกดูนะครับว่าคุณอยากที่จะใช้ความหวานแบบไหนมาทดแทนน้ำตาลที่คุณใช้ในชีวิตประจำวัน ท้ายนี้ถึงแม้จะเป็นน้ำตาลทดแทน น้ำตาลเทียม ก็อย่าย่ามใจทานให้มากเกินไปนะครับ เพราะทุกอย่างย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แนะนำให้ทานตามความจำเป็นจะดีกว่า
เข้าสู่ระบบ
Create New Account