ในปัจจุบันเชื้อไวรัสและเชื้อโรค มีพัฒนาการที่รวดเร็ว เกิดเป็นสายพันธ์ุต่างๆ แต่เคยสังเกตบ้างไหมว่าทำไมบางคนมีสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บป่วย แต่ทำไมบางคนจึงป่วยบ่อย
คนที่ไม่เจ็บป่วยง่ายๆ ก็เพราะร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันคอยปกป้องอยู่ ภูมิคุ้มกันเป็นกลไกการป้องกันตนเองอย่างหนึ่งของร่างกาย ในสภาวะปัจจุบัน เราต้องเผชิญกับสารพิษ สารเคมีทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่เรียกรวมๆ ว่าปัจจัยนำเข้า นั่นก็คือ
-
จากอากาศและมลภาวะต่างๆ ที่ฟุ้งกระจายอยู่รอบๆ ตัว แม้แต่ห้องนอนที่เราคิดว่าสะอาดดีแล้ว ก็เต็มไปด้วยเชื้อโรคเล็กๆ มากมายที่มองไม่เห็น
-
จากการรับประทาน อาหารที่เรากินเข้าไปในแต่ละมื้อ โดยทั่วไปจะมีหลักง่ายๆ ที่ถูกปลูกฝังคือ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นคาร์โบไฮเดรทคือข้าวและแป้งมากที่สุด รองลงมาคือ เนื้อสัตว์ นม ไข่ แต่พืชผัก ธัญพืชเอาไว้ท้ายๆ แต่จะมีใครคิดว่าการเกิดโรคและการเจ็บป่วยในปัจจุบันที่เป็นกันมาก เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไขมัน โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง นั้นมีความเกี่ยวข้องมาจากการกินอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ไขมัน มากเกินไป และวัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหารในปัจจุบันล้วนมีการใช้สารเคมีจากยาฆ่าแมลง สารเร่งเนื้อต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยได้เช่นกัน
-
การสะสมของสารเคมีเข้าสู่ร่างกายเป็นประจำ จากของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เครื่องสำอาง น้ำหอม น้ำยาทำสีผม สเปรย์ฉีดผม น้ำยาทาสีเล็บ สีของเสื้อผ้า พลาสติกสิ่งเหล่านี้มักปล่อยสารพิษออกมาจำนวนน้อยๆ ตลอดเวลา
ที่กล่าวมานี้ยังไม่รวมถึงกลไกระบบการทำงานภายในร่างกาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้มนุษย์มีภูมิต้านทานโรคต่ำลง สภาพร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันก็ต่ำลง เพราะสภาพร่างกายสะสมด้วยสารพิษ สารเคมีต่างๆ
Immune System คือระบบภูมิคุ้มกันทั้งหมดของร่างกาย ที่ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้ามาทำอันตรายต่อร่างกาย หรือเมื่อหลุดเข้ามาแล้วระบบภูมิคุ้มกันก็จะพยายามกำจัดออกไปโดยเร็วและมีประสิทธิภาพ
ระบบภูมิคุ้มกันมีความสำคัญต่อร่างกาย คือ
Defense ป้องกันและทำลายเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม
Homeostasis กำจัดเซลล์ปกติที่เสื่อมสภาพ เช่น เม็ดเลือดที่มีอายุมากออกจากระบบของร่างกาย
Surveillance คอยจับตาดูเซลล์ต่างๆที่จะแปรสภาพผิดไปจากปกติ เช่น คอยดักทำลาย tumor cells เพื่อป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
“ภูมิคุ้มกันร่างกายเปรียบเสมือนตำรวจ หรือทหารเอกของร่างกายที่คอยปกป้องเราจากศัตรูที่ลุกลามเข้ามา เช่น เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อโรคต่างๆ เชื้อรา ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ โรคที่เกิดจากไวรัส”
แต่ละบุคคล ความสามารถในการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อสิ่งแปลกปลอมนั้นแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับ
1. Genetic Factors ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับแล้วว่า การตอบสนองทางระบบภูมิคุ้มกันอยู่ภายใต้การควบคุมของยีน (ดังหลักฐานการค้นพบไม่นานนี้ เกี่ยวกับ Genetic Complex บนโครโมโซม ซึ่งควบคุมการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน) โรคต่าง ๆ ในมนุษย์เกิดจากความล้มเหลวของยีนที่ควบคุมการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน
2. Age Factors เด็กเล็กๆ และผู้สูงอายุเกิดโรคต่างๆ ได้ง่ายกว่าในคนหนุ่มสาว ทั้งนี้เพราะระบบภูมิคุ้มกันยังเจริญไม่เต็มที่ ขณะเดียวกันภูมิต้านทานจำเพาะที่ใช้ป้องกันโรคและภูมิต้านทานไม่จำเพาะก็บกพร่องด้วย เช่น ผิวหนังบางและกลไกการเกิดการอักเสบยังทำหน้าที่ได้ไม่สมบูรณ์ เป็นต้น เมื่ออายุมากขึ้น การทำหน้าที่ของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายจะค่อยๆ ลดลงไป ในผู้สูงอายุปริมาณสารภูมิคุ้มกันจะน้อยกว่าคนหนุ่มสาว จะเห็นได้ว่า นอกจากผู้สูงอายุจะเป็นโรคติดเชื้อได้ง่ายแล้ว อัตราการเกิดโรค ภูมิทำร้ายตนเองและโรคมะเร็งจะมีมากกว่าในคนหนุ่มสาว
3. Metabolic Factors ฮอร์โมนบางชนิด ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เช่น Steroid จะมีฤทธิ์ยับยั้งการกินเชื้อโรคของเม็ดเลือดขาว ลดการอักเสบ และลดการสร้างแอนติบอดี ทำให้เกิดโรคบางชนิดได้ง่ายกว่าคนทั่วไป เช่น โรคสุกใส การติดเชื้อ เป็นต้น
4. Environmental Factors สิ่งแวดล้อมมีความสำคัญ เนื่องจากสาเหตุหลายประการรวมทั้งการขาดอาหาร ซึ่งจะทำให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันเลวลง
5. Anatomic Factors ผิวหนังและเยื่อเมือกที่บุอวัยวะต่าง ๆ ทำหน้าที่เป็นด่านแรกที่ร่างกายใช้ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ในผู้ป่วยที่เป็นโรคผิวหนังและเยื่อบุอ่อนแอ คุณสมบัติดังกล่าวจะเสียไป เกิดการติดโรคและแพร่กระจายไปทั่วร่างกายได้ง่ายกว่าคนปกติ เป็นต้น
กลไกการทำงานของภูมิคุ้มกัน
การทำงานของภูมิคุ้มกันเรียกรวมกันว่า ระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System) แบ่งเป็น 2 ระบบคือ อาศัยเซลล์โดยตรง และอาศัยเซลล์โดยอ้อม ซึ่งทำงานสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน เรียกว่ารวมกันเป็นกองกำลังติดอาวุธ และประจัญบาน ต่อต้านผู้บุกรุก ไม่ให้รุกรานร่างกาย
ภูมิคุ้มกันที่อาศัยเซลล์โดยตรง คือ เมื่อมีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย และเม็ดเลือดขาวไปพบเข้า ก็จะจับกินทำลายเสียเปรียบกับการประจันหน้าศัตรู และใช้กำลังเข้าห้ำหั่น
อาศัยเซลล์โดยอ้อม คือ เมื่อเชื้อโรคเข้ามา เซลล์จะสร้างสารต่อต้านสิ่งแปลกปลอมขึ้นมา เรียกว่า แอนติบอดี (anti body) แอนติบอดีจะไปจับกับสิ่งแปลกปลอม เหมือนแม่กุญแจกับลูกกุญแจ ทำให้สิ่งแปลกปลอมไม่สามารถแผลงฤทธิ์กับร่างกายได้
การสร้างสารภูมิคุ้มกัน ในขั้นแรกเมื่อมีเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้ามาจะมีเซลล์ไปทำความรู้จัก กับเชื้อโรค แล้วบรรจุข้อมูล ส่งไปให้เซลล์ที่มีหน้าที่สร้าง สารต่อต้าน หากเคยรู้จักแล้ว ก็จะสร้างสารต่อต้านออกมาเลย แต่ถ้ายังไม่เคยรู้จักเลย ก็จะต้องส่งต่อไปให้เซลล์อีกตัวถอดรหัสก่อน เพื่อที่จะสร้างสารต่อต้านให้ถูกชนิดกับเชื้อโรคที่เข้ามา
สารภูมิคุ้มกัน (แอนติบอดี) แต่ละชนิดจะมีอายุไม่เท่ากัน บางชนิดก็อยู่ได้ไม่นาน บางชนิดก็อยู่ได้หลายปี บางชนิดก็อยู่ได้ตลอดชีวิต เช่น วัคซีนหัดเยอรมันที่คุ้มกันได้ตลอดชีวิต เมื่อระบบภูมิต้านทานของเราเป็นปกติดี เราก็สามารถกำจัดสิ่งแปลกปลอมออกไปจากระบบได้ทัน ไม่เกิดอาการเจ็บป่วยใดๆ หากแต่เมื่อระบบภูมิต้านทานของเราอ่อนแอลงจากสาเหตุต่างๆ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำก็จะป่วยได้อย่างทันทีเมื่อได้รับเชื้อ ในขณะที่คนที่มีภูมิต้านทานปานกลาง อาจต้องใช้เวลาในการรับเชื้อหลายวันกว่าจะเริ่มเกิดอาการป่วย และไม่เกิดความผิดปกติเลยในผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง แม้จะได้รับเชื้อเหมือน ๆ กัน
การปฏิบัติตัวดูแลและเสริมระบบภูมิต้านทานของร่างกายด้วยการแพทย์ผสมผสาน
-
การเสริมภูมิร่างกาย ถ้าเซลล์แข็งแรงภูมิต้านทานก็จะดี สภาพร่างกายของเราก็จะแข็งแรง เราให้ความสำคัญในระดับลึกถึงระดับเซลล์ ด้วยการใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ที่เรียกว่าออแกโนเปปไทด์ (สารชีวโมเลกุล) เป็นสารสกัดจากเซลล์อ่อนที่ยังมีคุณสมบัติทางชีวภาพอยู่ และด้วยการที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ จึงมีโครงสร้างเป็นอะมิโนธรรมชาติ จึงไม่มีผลข้างเคียง โดยวิธีการนี้เรียกว่าเซลล์ซ่อมเซลล์ คุณก็จะมีภูมิต้านทานที่ดีและยังช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้
-
การรับประทานวิตามินและอาหารเสริม ที่มีคุณสมบัติเสริมภูมิต้านทาน อย่างต่อเนื่องที่ Absolute Health ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีคุณภาพสูง มีคุณสมบัติเฉพาะในการรักษาและเสริมภูมิต้านทานให้กับผู้ป่วย
-
การรับประทานอาหาร ควรกินให้ครบทุกหมู่และเพียงพอ ไม่กินอาหารหมักดอง อาหารที่ทอดหรือย่างจนไหม้เกรียม ควรเน้นอาหารจำพวกธัญพืช ผักผลไม้ ให้มาก ๆ
-
การออกกำลังกาย การออกกำลังกายจะทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น มีการแตกแขนงของหลอดเลือดในเนื้อเยื่อต่าง ๆ มากขึ้น ทำให้เม็ดเลือดขาวหรือภูมิคุ้มกันเข้าสู่ในเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้ง่าย
-
การปรับสภาพจิตใจ ทำจิตใจให้เบิกบาน จิตใจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลั่งสารเอนดอร์ฟิน สารนี้พอหลั่งออกมาทำให้ระบบการทำงานของเซลล์ดีขึ้น
-
การดีท็อกซ์ เป็นวิธีการที่ช่วยขับของเสียภายที่เกิดจากกระบวนการต่างๆ ภายในร่างกาย
เข้าสู่ระบบ
Create New Account