โอโซน คือ อะไร
โอโซน (Ozone) คือ ก๊าซออกซิเจน 3 อะตอม (O3 ) สำหรับโอโซนตามธรรมชาตินั้นเกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ กระแสไฟฟ้าแรงสูงในอากาศอย่างแสงอาทิตย์ ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า โดยจะมีรังสียูวีที่คอยเปลี่ยนโครงสร้างของออกซิเจนให้เป็น O3 โอโซนเป็นก๊าซที่ไม่เสถียรและสลายตัวเร็ว แต่ด้วยจุดเด่นหลายประการ จึงได้มีการผลิตโอโซนเพื่อใช้ประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน เช่นเดียวกับทางการแพทย์ที่นำโอโซนมาใช้เพื่อการบำบัดรักษาโรค

โอโซนบำบัด (Ozone Therapy) รักษาโรคอะไรได้บ้าง
สำหรับประวัติศาสตร์การรักษาด้วยโอโซน มีการวิจัยและนำโอโซนมาใช้ในการรักษาโรคเป็นเวลากว่า 150 ปีมาแล้ว ซึ่งผลการรักษาได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลและปลอดภัยมีผลข้างเคียงน้อย ซึ่งเหตุผลที่ศูนย์การแพทย์บูรณาการแอ็บโซลูท เฮทล์ นำโอโซนมาใช้เพื่อบำบัดรักษาผู้ป่วยโรคต่าง ๆ พิจารณาจากกลไกลการออกฤทธิ์เป็นหลัก โดยโอโซนที่ใช้ได้มาจากเครื่องผลิตโอโซนโดยจะผลิตและรักษาในทันที

กลไกการออกฤทธิ์ของโอโซน
1.กำจัดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ยีสต์ ซึ่งโอโซนจะไปทำลายผนังเซลล์ที่ห่อหุ้มแบคทีเรีย ยับยั้งการเติบโตของเชื้อรา  ทำลายเปลือกหุ้มของไวรัสและยับยั้งการขยายพันธุ์
2.กระตุ้นเมตาบอลิซึมของออกซิเจน โดยกระตุ้นการสร้างพลังงานของเม็ดเลือดแดง ทำให้มีการปลดปล่อยออกซิเจนเข้าสู่เนื้อเยื่อมากขึ้น ทำให้เกิดสารต้านอนุมูลอิสระและปกป้องผนังเซลล์ รวมถึงทำให้หลอดเลือดขยายตัว
3.กระตุ้นระบบภูมิต้านทาน โดยพบว่าโอโซนในความเข้มข้นระหว่าง 30 ถึง 55 แกมม่า จะให้ผลสูงสุดในการสร้างอินเตอร์เฟอรอน (Interferon) คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อกำจัดเชื้อโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อไวรัส และสารอื่น ๆ ที่ไปกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน

ศูนย์การแพทย์บูรณาการ Absolute Health เราเลือกใช้โอโซนบำบัด เพื่อรักษาผู้ป่วยด้านต่าง ๆ ดังนี้

• โรคจากการติดเชื้อ ทั้งจากแบคทีเรียและไวรัส อาทิ เมื่อเป็นหวัด หากรับประทานยาสามารถทำได้เพียงรักษาตามอาการ แต่ถ้ารักษาด้วยโอโซนจะสามารถฆ่าไวรัสได้ นั่นย่อมทำให้อาการป่วยหายได้เร็ว หรือแม้แต่การติดเชื้อในลำไส้ สามารถใช้โอโซนในการรักษาได้เช่นเดียวกัน
• โรคเกี่ยวกับการอักเสบ เนื่องจากโอโซนสามารถช่วยลดการอักเสบได้เป็นอย่างดี
• โรคเกี่ยวกับระบบภูมิต้านทาน เช่น โรคแพ้ภูมิตนเอง โรคภูมิแพ้ เพราะโอโซนมีผลในการกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน และช่วยปรับสมดุลภูมิต้านทาน จึงเป็นผลดีกับโรคทางระบบภูมิต้านทาน
• ช่วยเพิ่มออกซิเจนให้ระบบการไหลเวียนเลือดดีขึ้น เช่น ในผู้ป่วยที่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ โรคเส้นเลือดสมองตีบ อัมพฤกษ์ เพราะโอโซนนั้นมีส่วนช่วยกระตุ้นเม็ดเลือดแดงให้มีพลังงานมากขึ้น จึงสามารถปล่อยออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อได้ดีขึ้นด้วย

โอโซนบำบัด อันตรายหรือไม่ ?
หลาย ๆ คนอาจได้รับข้อมูลที่ไม่ผ่านการศึกษาที่ลงลึกและเข้าใจรับทราบเพียงว่าโอโซนที่ผลิตขึ้นมาเพื่อบำบัดรักษาไม่ดี โดยเฉพาะถ้าสูดดมเข้าร่างกายโดยตรง เพราะเป็นก๊าชออกซิเจน ใช่ครับ แต่...ถูกเพียงครึ่งเดียว เราไปทำความเข้าใจทีละประเด็น

• ถ้าสูดดมโอโซนเข้าร่างกายโดยตรงไม่ดีกับร่างกายอย่างแน่นอน ซึ่งโอโซนบำบัดไม่มีการให้ผู้ป่วยสูดดมโดยตรง
• โอโซนไม่มีข้อดี คงไม่เป็นเช่นนั้นแน่ เพราะโอโซนมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ เพียงแต่ต้องดึงจุดเด่นมาใช้อย่างถูกต้อง ถ้าให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็เหมือนกับรังสี ทุกคนย่อมรู้ว่ารังสีอันตรายnแต่ก็ยังคงมีการนำรังสีมาใช้สำหรับการแพทย์ โอโซนบำบัดก็เช่นเดียวกัน เป็นการประยุกต์นำจุดเด่นของโอโซนมาใช้กับการรักษา

วิธีการรักษาด้วยโอโซนบำบัด สามารถทำได้ 2 ส่วนหลัก คือ

1. การใช้โอโซนรักษาทั่วร่างกาย
   
   
   •  โอโซนผสมเลือด โดยการดูดเลือดของผู้ป่วยออกมาจากร่างกายประมาณ 200 cc และใส่โอโซนผสมกับเลือด เมื่อผสมกันดีแล้วเลือดจะเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีแดงสด จึงใส่กลับคืนเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งวิธีนี้โอโซนจะกระจายไปได้ทั่วทั้งร่างกาย
2. การรักษาเฉพาะจุด

• เพื่อลดการอักเสบเฉพาะจุด มุ่งเน้นบริเวณข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกาย ดังเช่นผู้ที่มีอาการไหล่ติด สามารถรักษาโดยการใช้โอโซนฉีดไปเข้าไปยังข้อไหล่โดยตรง ด้วยการฉีดยาชาและวิตามิน และตามต่อด้วยการฉีดโอโซนเข้าไป เหตุผลส่วนหนึ่งที่ใช้ยาชาและวิตามินนอกจากคุณสมบัติที่ดีของทั้งยาชาและวิตามินแล้ว โอโซนจะออกฤทธิ์ได้ดีเมื่อมีน้ำหรือของเหลวเป็นส่วนประกอบนั่นเอง ด้านผู้ที่มีปัญหาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทก็สามารถใช้วิธีนี้รักษาได้เช่นกัน เพียงเปลี่ยนจุดในการฉีดจากข้อเป็นเนื้อเยื่อใกล้ ๆ หมอนรองกระดูกสันหลังแทน
• อบแผลเฉพาะจุด เหมาะสำหรับแผลผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ที่มีแผลติดเชื้อบริเวณผิวหนัง ทำได้โดยใช้ถุงโอโซนเพื่อหุ้มเฉพาะแผลเอาไว้เพื่อไม่ให้มีโอโซนรั่วออกมาภายนอกบริเวณและใช้เวลาอบแผลประมาณ 20-30 นาที โอโซนจะสามารถฆ่าเชื้อได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งเพิ่มออกซิเจนบริเวณแผล และยังช่วยกระตุ้นแผลให้ซ่อมแซมตัวเองเพื่อสร้างเนื้อใหม่ได้ดีอีกด้วย
• การใช้โอโซนฉีดเข้าทางทวารหนัก เพื่อการรักษาเชื้อไวรัสตับอักเสบ

ข้อห้ามและข้อควรระวังสำหรับโอโซนบำบัด
ห้ามสูดดมโดยตรง และสำหรับผู้ที่เลือดออกง่ายต้องแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อเพิ่มความมัดระวังในเมื่อต้องทำการเจาะเลือด

ผลข้างเคียงหลังทำโอโซนบำบัด
สำหรับบางรายอาจมีอาการซ่านพิษ คือ  มีอาการปวดเมื่อย  ครั่นเนื้อครั่นตัว คล้ายมีไข้ต่ำ ๆ เนื่องจากถ้าขณะที่ทำโอโซนบำบัดร่างกายมีเชื้อโรคจะถูกทำลาย ย่อมทำให้สารพิษต่าง ๆ ถูกขจัดออกมาตามกระบวนการของร่างกาย จึงเป็นที่มาให้เกิดอาการซ่านพิษ และอาการจะดีขึ้นเมื่อพิษถูกขจัดออกหมดโดยใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน

....................................................