Alpha-Lipoic Acid หรือ ALA Treatment คือตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพ และส่งเสริมความแข็งแรงในร่างกายให้กับผู้ป่วยโรคเบาหวาน รวมถึงผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพด้วยการรับวิตามินและสารอาหารทางหลอดเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณต้องการสารอาหารที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่อง การต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ที่ว่ากันว่าเป็น “Universal Antioxidant” หรือ ‘สารต้านอนุมูลอิสระครอบจักรวาล’ ด้วยการรับสาร Alpha-lipoic acid เข้มข้น จะเป็นทางเลือกสำคัญที่คุณต้องนำมาใช้ในการดูแลสุขภาพ
เพราะเหตุใด Alpha-lipoic acid จึงได้รับการกล่าวขานว่าเป็น สารต้านอนุมูลอิสระครอบจักรวาล และกลายมาเป็นทางเลือกสำคัญเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพและคุณภาพของผู้ป่วยโรคเบาหวานให้ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้คือคำตอบ...
ทำไม Alpha-Lipoic Acid จึงเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพจนได้รับฉายาว่าเป็น สารต้านอนุมูลอิสระครอบจักรวาล
จากรายงานการวิจัยพบว่า Alpha-Lipoic Acid : ALA หรือ กรดอัลฟาไลโปอิกนั้นเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่สามารถละลายได้ทั้งในน้ำและในไขมัน ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของเซลล์และเนื้อเยื่อทั่วร่างกายของมนุษย์ โดยว่ากันว่าสามารถแทรกซึมได้ลงลึกถึง DNA ทั้งยังผ่านแนวกั้นในสมอง Blood brain barrier ได้เป็นอย่างดี จึงสามารถเคลื่อนที่และดูดซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้โดยง่ายดาย ต่างจากสารต้านอนุมูลอิสระอื่น เช่น วิตามินซีที่ไม่ละลายในไขมัน จึงไม่สามารถแทรกซึมผ่านผนังเซลล์ซึ่งมีไขมันเป็นส่วนประกอบอยู่ หรือวิตามินอีที่ไม่ละลายในน้ำ และขณะเดียวกันหากนำเอา ALA มาใช้ร่วมกับสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ เช่น Glutathione และ Coenzyme Q10 ก็จะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากวิตามินหรือสารอาหารนั้น ๆ อย่างเต็มที่ และนอกจากประโยชน์ข้างต้นแล้ว ALA ยังมีคุณสมบัติในแง่ของการช่วยลดสารพิษโลหะหนักได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่า ALA นั้นช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินดีขึ้น โดยช่วยให้อินซูลินเผาผลาญน้ำตาลได้ดีขึ้น จึงมีส่วนสำคัญต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน และนอกจากนี้ก็ยังช่วยแก้ปัญหาผลแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาวะปลายประสาทเสื่อมจากเบาหวาน ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการชาหรืออาการแสบร้อนตามบริเวณปลายมือปลายเท้า ALA ก็จะมีประโยชน์ในกรณีดังกล่าว
การดริปวิตามิน Alpha-Lipoic Acid ชนิดเข้มข้น กับผลลัพธ์ที่ดีกว่ารูปแบบการทาน
การรับสาร ALA เพื่อดูแลสุขภาพนั้นสามารถรับได้ทั้งการทานจากอาหารในชีวิตประจำวัน การทานในรูปแบบอาหารเสริม การดริปหรือการรับวิตามินทางหลอดเลือด แต่ผลที่ได้รับก็แตกต่างกันไป ในแง่ของการดูดซึมเข้าร่างกาย ซึ่งแน่นอนการรับประทานย่อมเทียบไม่ได้กับการให้สารอาหารเข้าทางหลอดเลือดโดยตรง เพราะการรับสารอาหารทางหลอดเลือดนั้นสามารถให้ในปริมาณที่สูงกว่า สารอาหารสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้โดยตรง และไม่ต้องกังวลกับปัญหาการดูดซึมเหมือนการรับประทาน
ใครบ้างที่ควรจะใช้ ALA ในการดูแลสุขภาพ
ALA เหมาะกับคนที่มีปัญหาสุขภาพหลาย อาทิ
- ผู้ป่วยเบาหวาน เพราะในโรคเบาหวานภาวะน้ำตาลที่สูงจะทำให้เกิดอนุมูลอิสระจำนวนมาก และอนุมูลอิสระเหล่านี้จะไปทำลายเนื้อเยื่อต่าง ๆ ที่ทำให้เซลล์ในร่างกายเสื่อมสภาพ จะเกิดเป็นโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะเมื่อร่างกายเผาผลาญน้ำตาลได้ดี การลดน้ำหนักก็จะเป็นไปอย่างดีและมีประสิทธิภาพ
- ผู้ที่ต้องการการดูแลสุขภาพผิวพรรณ เมื่อใช้เสริมกับสารต้านอนุมูลอิสระเช่น วิตามินซี วิตามินอี Glutathione และ Coenzyme Q10
- ผู้ที่ต้องการลดสารพิษโลหะหนักในร่างกาย
- ผู้รักสุขภาพทั่วไปที่ต้องการดูแลสุขภาพ
ระยะเวลาของการทรีทเม้นท์ควรทำต่อเนื่องกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ควรทำบ่อยแค่ไหน
การทำทรีทเม้นท์ ALA ควรมีความต่อเนื่องอย่างน้อย 5-10 ครั้ง หรือมากกว่านั้น ในระยะความถี่ 1- 2 ครั้ง / สัปดาห์
และโดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน ควรจะมีการดูแลต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ อย่างเช่นปีละ 1 คอร์ส เป็นต้น
ข้อควรรู้ หรือสิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนทำ ALA
ในการใช้ ALA เข้มข้นเพื่อการดูแลสุขภาพนั้น ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ และในสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตรก็ควรงดทรีทเม้นท์นี้ เพราะแม้ว่าในบางประเทศเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกาจะจัด ALA ไว้ในกลุ่มของอาหารเสริม แต่สำหรับบางประเทศในยุโรปจัดว่า ALA นั้นเป็นยา ดังนั้นการใช้จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
ท้ายนี้ ถ้าคุณต้องการการดูแลสุขภาพที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ Alpha-Lipoic Acid คือจุดเริ่มต้นที่จะช่วยนำคุณไปสู่สุขภาพที่ดีกว่าเดิมได้.....
เข้าสู่ระบบ
Create New Account