การระบาดของโรค COVID – 19 ทำให้ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหลายคนละเลยการดูแลสุขภาพ และพยายามหลีกเลี่ยงการไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตามนัด เพราะคิดว่าการออกนอกบ้านไปยังสถานที่อื่น ๆ นั้นเสี่ยงต่อการรับเชื้อโรคจากภายนอก ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวพบว่ากลุ่มผู้ป่วยที่มักจะหลีกเลี่ยงการไปพบแพทย์มากที่สุด ก็คือ กลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคชุด เช่น โรคไขมันเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน ทำให้ลืมไปว่าจริง ๆ แล้วโรคชุดเหล่านี้ นั้นจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง มากกว่าโรคระบาดที่เข้ามาแล้วไม่นานก็ผ่านไป
ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางสุขภาพอันร้ายแรงที่อาจตามมาแบบไม่คาดคิดจากโรคชุด ที่เริ่มต้นจาก โรคชุดที่ 1 จากการเป็นเบาหวาน ที่น้ำตาลเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมที่พุง และบางส่วนก็ถูกตับเปลี่ยนเป็นไขมันในเลือด จนเกิดโรคชุดที่ 2 ไขมันเลือดสูง ที่ก่อให้เกิดการอักเสบของผนังหลอดเลือด เลือดไหลเวียนได้น้อยลง หัวใจต้องสูบฉีดแรงขึ้น โรคชุดที่ 3 ความดันโลหิตสูง จึงตามมา และนำพาไปสู่ความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพเช่น การอักเสบของผนังหลอดเลือด ที่อาจทำให้ตาบอด ไตวาย และเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดสมองที่ อาจ ตีบ แตก ตัน ที่เสี่ยงต่อปัญหาอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือ หลอดเลือดหัวใจ ที่ส่งผลต่อการเกิดโรคหัวใจวายแบบเฉียบพลัน และนำมาซึ่งความสูญเสียอันคาดไม่ถึงดังที่เราเคยได้ยิน ดังนั้น ผู้มีโรคประจำตัวหนึ่งในโรคชุดทั้งหมดนี้ ต้องดูแลร่างกายอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ให้ชีวิตได้ห่างไกลจากคำว่าโรคชุด ด้วยแนวทางการแพทย์แบบบูรณาการที่จะกล่าวต่อไปในบทความนี้
โรคชุดเบาหวาน ความดัน ไขมัน หัวใจ ต้องรักษา เพราะปล่อยทิ้งไว้อาจไม่ปลอดภัย
เมื่อป่วยแล้วต้องดูแลอย่างเป็นระบบ เมื่อเริ่มป่วยด้วยโรคชุด อย่าปล่อยไว้ควรรีบพบแพทย์เพื่อประเมินระบบเผาผลาญของเราว่าอยู่ในระดับใด เช่น ระยะดื้ออินซูลินหรือระยะอ้วนลงพุงธรรมดา ระยะมีน้ำตาลขึ้น ระยะเริ่มมีไขมัน ระยะมีไขมันเกาะเส้นเลือดจนส่งผลให้มีความดันโลหิตสูง หรือระยะเส้นเลือดตีบแล้ว เพื่อหาแนวทางการรักษาอย่างถูกต้อง เหมาะสม และทันท่วงที
โรคชุด แก้ปัญหาด้วยการทานยาคือทางออกหรือไม่
มีผู้ป่วยโรคชุดเช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และไขมันเลือดสูง หลีกเลี่ยงการทานยา เพราะทราบดีว่าการทานยาต่อเนื่องในระยะเวลานาน ๆ แน่นอนว่าต้องส่งผลกระทบกับสุขภาพในระยะยาว ทำให้คำถามที่บอกว่า หากตรวจพบว่ามีความเสี่ยงของโรคชุดดังกล่าวแล้ว ไม่ทานยาจะได้ไหม กลายเป็นคำถามยอดนิยมที่คนส่วนใหญ่นั้นตั้งคำถามและสงสัยว่าจะเป็นไปได้ไหม ซึ่งคำตอบนี้ก็คือ หากตรวจพบว่าคุณมีปัญหาในระยะก่อนเริ่มต้นและสามารถปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ ก็อาจจะยังไม่ต้องทานยาได้ แต่ก็ต้องมีการติดตามผลและนัดตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ระดับความดัน รวมถึงระดับของไขมันในเลือดเป็นระยะ ๆ
การแพทย์แบบบูรณาการอีกหนึ่งทางออกในการแก้ปัญหา แบบไม่ต้องทานยา
ในผู้ที่ป่วยโรคชุดที่ระดับของน้ำตาล ไขมัน และความดันยังไม่สูงมากนักและไม่อยากทานยา ในแนวทางการแพทย์แบบบูรณาการจะอาศัยการพิจารณาเรื่องของอายุ ผลการตรวจเลือด ประวัติครอบครัว ประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดแทรกซ้อน จากโรคชุดที่ 1 ไปสู่โรคชุดที่ 2 โรคชุดที่ 3 กระทั่งการนำไปสู่การเกิดโรคในกลุ่มโรคหลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจ ซึ่งเป็นโรคแทรกซ้อนที่อันตรายและน่ากลัวที่สุดของการเกิดโรคชุด ก่อนการจ่ายยาให้ทาน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วคำแนะนำที่ได้รับก็คือ ให้ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น งดอาหารไขมันสูง ออกกำลังกาย พักผ่อน ลดความเครียด
พร้อมแนะนำการรักษาในแบบบูรณาการ ซึ่งจะใช้วิธีการรักษาแบบเฉพาะบุคคล ที่เน้นการรักษาแบบลงลึกถึงระดับเซลล์
วิธีการรักษาโรคเบาหวาน ไขมัน ความดันเลือดสูง แบบเฉพาะบุคคล ประกอบด้วย
การใช้สารอาหารบำบัด รวมถึงปรับวินัยการใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์การปรับอาหารงดทานเค็ม ทานหวาน อาหารที่มันจัดและไขมันสูง พร้อมดูแลเรื่องการออกกำลังกาย ก่อนที่จะพิจารณาการทานยา ซึ่งในตอนนี้เอง หากคนไข้ควบคุมระดับไขมันให้ลดลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติและมีแนวโน้มที่ดีขึ้น อาจจะไม่ต้องทานยาเลยก็ได้
คีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) ขับสารพิษตกค้างสารพิษจำพวกโลหะหนัก เพราะการตกค้างของสารพิษเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดการเสื่อมของตับอ่อน ทั้งยังส่งผลกระทบโดยตรงกับระบบการไหลเวียนเลือด ดังนั้น การล้างสารพิษโลหะหนักด้วยวิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงของการอุดตันของเส้นเลือด ช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ระบบหลอดเลือดหัวใจดีขึ้น อ่านข้อมูลเรื่อง คีเลชั่นบำบัด คลิก
การใช้โอโซนบำบัด ( Ozone Therapy ) โดยการกระตุ้นสร้างพลังงานของเม็ดเลือดแดง เพื่อให้มีการปลดปล่อยออกซิเจนเข้าสู่เนื้อเยื่อมากขึ้น เพื่อลดการอักเสบของหลอดเลือด ทำให้เกิดสารต้านอนุมูลอิสระและปกป้องผนังเซลล์ รวมถึงทำให้หลอดเลือดขยายตัว อ่านข้อมูล เรื่อง โอโซนบำบัด คลิก
วัคซีนจากเลือดของตนเอง ( Allergostop ) มีประโยชน์ในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ จากโรคเบาหวาน อัลไซเมอร์ โดยป้องกันการทำลายเซลล์ และชะลอการดำเนินโรคได้ โดยขั้นตอนของการทำวัคซีนนั้น เป็นการนำเลือดของผู้ป่วย มากระตุ้นด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ เพื่อเปลี่ยนแปลงโมเลกุลของแอนติบอดีหรือแอนติเจนให้เป็นขั้วที่ชัดเจน และฉีดกลับเข้าไปในตัวของผู้ป่วย อ่านข้อมูล เรื่อง Allergostop คลิก
ปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการทานอาหารและพฤติกรรมการใช้ชีวิตเป็นภัยเงียบที่อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด สามารถทำร้ายร่างกายของเราได้ตลอดเวลาถ้าเราไม่ใส่ใจสุขภาพ ฉะนั้นอย่ามัวกังวลแต่กับโรคระบาดที่ผ่านมาจนกระทั่งลืมไปว่ามีปัญหาสุขภาพที่สามารถคุกคามร่างกายของเราได้มากกว่านั้นอยู่มีมากมาย ถ้าเราไม่รู้จักดูแลตนเอง
อย่าลืมว่าโรคเรื้อรังต้องไม่ขาดการดูแลรักษา เพราะการดูแลรักษาที่ถูกต้องและตรงจุดคือหัวใจสำคัญในการลดความเสี่ยงของความสูญเสียที่ตามมาโดยที่เราไม่คาดคิด ไม่ว่าคุณจะป่วยด้วยโรคชุด เบาหวาน ความดัน ไขมันเลือดสูง หากขาดการดูอย่างต่อเนื่องและถูกต้อง ชีวิต คือสิ่งเดิมพันที่จะสูญเสียโดยไม่คาดคิด ...................
เข้าสู่ระบบ
Create New Account