คนสู้โรค SLE แค่เฉียด ...ชีวิตนี้เรายังมีทางเลือก คุณพราวพลิน เบญจพรธนาวัฒน์

โทรศัพท์ : 026515988
คนสู้โรค SLE แค่เฉียด ...ชีวิตนี้เรายังมีทางเลือก คุณพราวพลิน เบญจพรธนาวัฒน์
คนสู้โรค SLE แค่เฉียด ...ชีวิตนี้เรายังมีทางเลือก คุณพราวพลิน เบญจพรธนาวัฒน์

      ดิฉันเป็นคนป่วยคนหนึ่งที่ไม่มีโอกาสได้รู้ตัวเองว่าจะป่วยด้วยโรคแบบนี้โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง (SLE) หรือที่คนไทยรู้จักกันคือโรคพุ่มพวง   ซึ่งแต่ก่อนเป็นคนที่ใช้ชีวิตได้อย่างปกติเหมือนคนทั่วไป สุขภาพทั่วไปแข็งแรงดี ทำกิจกรรมต่างๆได้ปกติ  ไปวัด ไปเรียนหนังสือ  เดินทางไปต่างประเทศ ก็ไม่มีปัญหาอะไรและไม่คาดคิดมาก่อนว่าเราจะเป็นอย่างนี้ได้

      ปกติที่ผ่านมาเราประมาทอยู่อย่างหนึ่งค่ะ คือเราไม่เคยตรวจสุขภาพประจำปีเลยค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าแข็งแรงมาตลอด ไม่เจ็บป่วยอะไรเลย เล็กๆน้อยๆ ก็ไม่เป็น เลยไม่เคยตรวจเลยค่ะ

      แล้วมาวันหนึ่งเราก็พบได้ว่าเรามีอาการบางอย่างแสดงถึงความผิดปกติ แต่ว่าก็ไม่ทราบว่าเป็นสัญญาณบอกว่าเป็นโรค เช่น เท้าบวม ก็นึกว่าเป็นเพราะยืนนาน ผมร่วง ก็นึกว่าเป็นเพราะอาบน้ำร้อนไป ผิวแดงและแสบร้อนได้ง่ายเวลากลับมาเมืองไทย (ตอนที่พบว่าเป็นโรค อยู่ต่างประเทศ) ก็นึกว่าเพราะไม่ชินอากาศ อ่อนเพลีย หายใจเข้าได้ไม่เต็มปอด มีไข้ต่ำๆ เหนื่อยง่าย ปัสสาวะเป็นฟอง เป็นตะคริวบ่อย นิ้วล็อค แต่ว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นพร้อมๆกันทีเดียว  ก็เลยไปหาหมอ พอคุณหมอซักประวัติบวกกับเจอว่าเรามีจ้ำเลือดขึ้นตามผิวหนังหลายที่ และเท้าบวมมาก เลยขอตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะแบบละเอียดค่ะ เลยทำให้เจอว่าเป็นโรคนี้

 

อาการเจ็บป่วยที่หนักที่สุด เป็นอย่างไรบ้าง

      เริ่มจากมีไข้ค่ะ มีไข้ต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน แล้วก็เริ่มหายใจไม่สะดวก คุณหมอให้เอ๊กซเรย์ปอด ก็พบว่าน้ำท่วมปอดเล็กน้อย แต่ว่ามีอาการติดเชื้อด้วย ได้รับยาฆ่าเชื้อ ก็ยังไม่ดีขี้น คุณหมอจึงขอส่องกล้องลงไปในปอด และขอชิ้นเนื้อปอดด้วย เพื่อเอาไปตรวจ หลังจากนั้นตอนกลางคืน ดิฉันลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกค่ะ ก็รู้สึกว่าหายใจไม่ได้เลย ต้องเข้า ICU ทั้งหมอและพยาบาล ก็พยายามใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่ว่าเราหายใจไม่ได้เลย คุณหมอเลยต้องใส่ท่อเข้าทางปากค่ะ จากนั้นก็ไม่ได้สติไปเลยค่ะ คุณแม่เล่าให้ฟังว่าช่วงนั้นดิฉัน หายใจไม่ได้ เนื่องจากปอดติดเชื้อไวรัส ทำให้ปอดถูกทำลายใช้การไม่ได้ 100% ค่ะ ได้ให้ยาทุกอย่างที่โรงพยาบาลมีแล้วแต่ก็ไม่ตอบสนองต่อการรักษา อาการไม่ดีขึ้นเลยค่ะ  จนกระทั่งคุณแม่ได้ติดต่อเพื่อใช้เซลล์บำบัด (Cell Therapy)  ครั้งแรกอาการก็ยังทรง ๆ ไม่ดีขึ้นไม่แย่ลง ครั้งที่สอง อาการเริ่มดีขึ้น สองวันจากนั้นเริ่มรู้สึกตัวค่ะ แล้วหลังจากนั้น อาการต่าง ๆ ก็ดีขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งออกจากโรงพยาบาลได้ แต่ยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ ประมาณ 3-6 เดือน และในขณะที่อยู่ห้องไอซียู คุณหมอได้ให้ยาสลายกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง เดินไม่ได้และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ค่ะ เหมือนเป็นอัมพาตไปเลย ไปไหนต้องให้คนอุ้มแล้วนั่งรถเข็น

 

พบแนวทางการรักษาแบบการแพทย์บุรณาการได้อย่างไร

      เพื่อนคุณแม่ซึ่งเป็นคุณหมอท่านได้เคยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการรักษาแบบแบบบูรณาการ แต่คุณแม่ก็ยังไม่ได้สนใจหาข้อมูลอะไรมากนัก จนกระทั่งตอนที่ลูกป่วยหนักที่สุดนั่นแหละค่ะ จึงต้องตัดสินใจรักษาทุกทางเลยค่ะ เพื่อที่จะรักษา

SEND A MESSAGE
Your email address will not be published. Required fields are marked.
CALL US : 02 651 5988
Select AH Find Dr Contact Us