วิตามินดี พระเอกใหม่ของวงการสุขภาพในยุคโรคระบาด COVID -19

ในสถานการณ์เช่นปัจจุบันที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสร้าย ไม่ว่าวิธีการใดหรืออาหารอะไรที่คนบอกว่าดีกับสุขภาพ  เราทุกคนก็ล้วนแล้วแต่หามาดื่ม มาทาน มาใช้เพื่อส่งเสริมสุขภาพและป้องกันการรับเชื้อโรคทั้งสิ้น นั่นก็รวมถึง อีกหนึ่งพระเอกใหม่ของวงการสุขภาพที่จะกล่าวถึงอย่าง วิตามินดี อีกด้วย  

เหตุผลอะไร  ทำไมวิตามินดีที่เราเคยคิดว่ามีประโยชน์มากมายกับกระดูก  ถึงกลายมาเป็นวิตามินที่มีบทบาทในแง่ของการเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายและช่วยในการต่อสู้กับโรค COVID –19 ที่กำลังรุนแรงอยู่ในประเทศของเราในตอนนี้  มาเรียนรู้ข้อเท็จจริงเรื่องนี้กัน

วิตามินดี เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน มีประโยชน์กับร่างกายของเรามากมาย ทั้งควบคุมการเผาผลาญแคลเซียมและฟอสฟอรัส  เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง  ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนพาราไทรอยด์ ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน และเพิ่มความสามารถของร่างกายในการต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ  โดยเฉพาะเชื้อไวรัสที่กำลังระบาดในประเทศไทยอยู่ตอนนี้ ( กรกฎาคม 64 )

จากการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับภาวะขาดวิตามินดี พบว่าภาวะดังกล่าวนี้สามารถพบได้ทุกช่วงวัยในทุกกลุ่มอายุ และมีความสัมพันธ์กับผู้ป่วยที่เป็นโรคต่าง ๆ เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด  โรคเบาหวานโรคมะเร็ง โรคแพ้ภูมิตัวเอง เป็นต้น นอกจากนี้ ภาวะขาดวิตามินดียังมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจที่ต้องเข้ารักษาตัวในห้อง ICU  รวมถึงมีความเชื่อมโยงกับการติดเชื้อไวรัสอีกด้วย

โดยมีการศึกษาในประเทศอิตาลี เมื่อมีคนไข้แอดมิทพบว่า  99% ของคนไข้ที่ต้องเข้าไอซียูมีระดับวิตามินดีต่ำ  97% ของคนไข้ที่เสียชีวิตก็มีระดับวิตามินดีต่ำ  และทุก ๆ หนึ่ง ng/ml ของระดับวิตามินดีที่เพิ่มขึ้นจะช่วยลดอัตราการย้ายเข้าไอซียู 1%  และทุก ๆ หนึ่ง ng/ml ของระดับวิตามินดีที่เพิ่มขึ้นลดโอกาสการเสียชีวิตได้ 4 - 6% นั่นแปลว่ายิ่งเราเพิ่มระดับของวิตามินดีให้สูงเท่าไร โอกาสโรครุนแรงโอกาสเสียชีวิตยิ่งน้อยลงตามลำดับ จึงเป็นเหตุผลที่มาว่าทำไมการตรวจระดับวิตามินดีถึงสำคัญ และทำไมแพทย์จึงแนะนำให้รักษาระดับวิตามินดีในร่างกายให้เกิน 70 ng/ml อยู่เสมอ

นับได้ว่าพบวิตามินดีมีบทบาทสำคัญ ในแง่ของการทำงานที่เป็นปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายในช่วงที่มีสถานการณ์การระบาดของโรค COVID – 19  ทั้งนี้มีข้อมูลจากนักวิชาการกลุ่มหนึ่งได้แนะนำว่า ให้นำวิตามินดีขนาดสูงในรูปแบบของการฉีดมาใช้ต้านเชื้อโรคระบาด ซึ่งเหตุผลที่ต้องใช้แบบฉีด เพราะถ้าหากต้องการทานวิตามินดีเพื่อให้ปกป้องร่างกายนั้น อาจจะต้องใช้เวลายาวนานกว่า 2 เดือน ที่ระดับของวิตามินนั้นจะขึ้นไปสู่ระดับที่สามารถปกป้องร่างกายได้ ฉะนั้นแล้ว หากต้องการให้วิตามินดีช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย นักวิชาการเสนอว่าให้ใช้วิตามินดี ขนาดสูง 300,000 IU แบบฉีดจะช่วยในเรื่องของระดับภูมิต้านทานที่สูงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

จากข้อมูลดังกล่าวคงหายสงสัยกันแล้วว่าทำไมวิตามินดี ที่เราละเลยและมองข้ามประโยชน์ของมันไป ถึงได้นำมาถูกพูดถึงกันอย่างมากมายในช่วงสถานการณ์ปัจจุบัน  นั่นก็เป็นเพราะว่า วิตามินดีมันไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังมีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเราได้อีกด้วย การที่ร่างกายของเราขาดวิตามินดีไม่ได้หมายความเพียงว่ากระดูกของเราจะอ่อนแอเพียงเท่านั้น แต่ร่างกายของเราก็จะอ่อนแอตามไปด้วย ดังนั้นหากอยากให้ภูมิคุ้มกันของคุณทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพ แนะนำว่าร่างกายไม่ควรขาดวิตามินดีอย่างเด็ดขาด