รักษาเบาหวานอย่างตรงจุด...และครอบคลุม

โทรศัพท์ : 026515988
รักษาเบาหวานอย่างตรงจุด...และครอบคลุม

 

      

รักษาเบาหวานอย่างตรงจุด...และครอบคลุม

       โรคเบาหวาน เป็นโรคที่เกิดจากการบริโภค เป็นโรคของวิถีชีวิตที่ผิดพลาด การรักษาด้วยยาอย่างเดียวจึงไม่ใช่คำตอบ การรักษาแบบการแพทย์บูรณาการ จึงเน้นการรวบรวมศักยภาพของการดูแลรักษาที่ลงลึกในด้านต่าง ๆ มาปรับใช้ให้เหมาะกับแต่ละบุคคล เพื่อเข้าไปปรับแก้ไขที่ต้นตอของปัญหาอย่างแท้จริง

การรักษาเบาหวานแบบการแพทย์บูรณาการ

ก่อนอื่นต้องรู้ถึงหัวใจหลักก่อนว่า ยา ทำได้เพียงลดระดับน้ำตาลในเลือด ไม่สามารถทำให้พยาธิสภาพของโรคดีขึ้นได้ เพราะฉะนั้นผู้ป่วยจะพึ่งเฉพาะยาและปรับไลฟ์สไตล์เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ย่อมไม่อาจดีขึ้นได้ โรคเบาหวานจะต้องได้รับการดูแลและปฏิบัติตัวในทุกบริบทของชีวิตอย่างถูกต้อง อาทิ การฟื้นฟูเซลล์ อาหารที่เหมาะกับแต่ละคน การล้างสารพิษ การออกกำลังกาย เพื่อทำให้พยาธิสภาพของโรคดีขึ้น จึงจะสามารถแก้ไขโรคให้ดีขึ้นได้ ซึ่งเรามีแนวทางการรักษาหลัก ๆ ได้แก่

    1. ปรับสมดุลการเผาผลาญของร่างกาย โดยการวิเคราะห์ระบบแร่ธาตุ สารอาหารจำเป็น ระบบฮอร์โมน และออกแบบวิตามินแร่ธาตุและฮอร์โมนทดแทนเฉพาะบุคคล เพื่อเสริมให้ระบบต่าง ๆ กลับมาทำงานเป็นปกติดีดังเดิม

    2. ขับสารพิษตกค้าง สารพิษจำพวกโลหะหนัก เพราะการตกค้างของสารพิษเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดการเสื่อมของตับอ่อน ทั้งยังส่งผลกระทบโดยตรงกับระบบการไหลเวียนเลือด ดังนั้น การล้างสารพิษโลหะหนัก ด้วยวิธีคีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) จะช่วยลดความเสี่ยงของการอุดตันของเส้นเลือด ช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ระบบหลอดเลือดหัวใจของผู้ป่วยเบาหวานดีขึ้น

    3. วัคซีนจากตนเอง มีประโยชน์ในการรักษาโรคความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ เช่น เบาหวาน อัลไซเมอร์ โดยป้องกันการทำลายเซลล์ และชะลอการดำเนินโรคได้ เนื่องจากโรคเรื้อรังมักมีการทำลายเซลล์ในวงกว้าง เซลล์ที่ตายอาจกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน ส่งผลให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่ผิดปกติ ต่อต้านตัวเอง และเกิดการทำลายเซลล์เพิ่มขึ้น ทำให้โรคพัฒนาไปเร็ว  

    4. อาหารเฉพาะทาง และเฉพาะบุคคล จากข้อมูลหากปรับอาหารเป็นคาร์โบไฮเดรตต่ำมากไม่เกิน 10% ของพลังงานต่อวัน ไขมันชนิดดี 70% ต่อวัน และโปรตีนชนิดดี 10-20% ต่อวัน สามารถรักษาเบาหวานให้ดีขึ้นหรือหายได้อย่างปลอดภัยประมาณ 48-57% โดยมีการตรวจเลือดประเมินค่าน้ำตาลและค่าคีโตนในเลือดสม่ำเสมอ รวมทั้งได้รับการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด ในการปรับยาและปรับอาหารตามผลเลือด

    5. เปปไทด์และ Cell เริ่มต้น  ปัจจุบันมีบริษัทที่ทำการวิจัยในการใช้ Mesenchymal stromal celll เพื่อการรักษาเบาหวาน ทั้งประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 อยู่หลายบริษัท ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะด้าน เปปไทด์ มีการนำเปปไทด์จากธรรมชาติสกัดจากเนื้อเยื่อเซลล์ใช้ในการรักษาโรคเรื้อรังต่าง ๆ นอกจากเปปไทด์ธรรมชาติแล้ว มีการใช้งานเปปไทด์สังเคราะห์ในประเทศไทยด้วย ซึ่งมีตัวยาสร้างขึ้นเสมือนเปปไทด์ที่สกัดจากต่อมไธมัส ได้แก่ Thymosin Peptide ปัจจุบันใช้เป็นยารักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งเพื่อการเสริมสร้างระบบภูมิต้านทาน ส่วนยาในกลุ่มโฮมีโอพาที ที่เป็นเปปไทด์สกัดจากอวัยวะต่าง ๆ ปัจจุบันมีขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เช่น หัวใจสกัด เครื่องในสกัด เป็นต้น เปปไทด์ จากอวัยวะต่าง ๆ นอกเหนือจากนี้ ทางสมาคม CPT/FCT แห่งประเทศไทย แนะนำให้อยู่ในรูปของการปรุงยาตามใบสั่งแพทย์ กลไกการออกฤทธิ์ของเปปไทด์ ในการฟื้นฟูรักษาอวัยวะที่เสื่อมนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด ในขณะที่ clinical studies และ evidence-basis ยืนยันถึงประสิทธิผลของเปปไทด์อย่างมีนัยยะสำคัญ อย่างไรก็ตาม นักวิจัยจากรัสเซีย ได้พยายามวิเคราะห์การออกฤทธิปกป้องฟื้นฟูซ่อมแซมเซลล์ในระบบประสาทซึ่งเป็นกลไกการออกฤทธิ์หลักของสารชีวภาพกลุ่มเปปไทด์บำบัด


      นอกจากนี้การเปลี่ยนวิถีชีวิต การออกกำลังกาย การลดความเครียด การงดบุหรี่ เบียร์ สุรา และที่สำคัญที่สุด เปลี่ยนแปลงเรื่องอาหารอย่างจริงจังแบบมีหลักการ สามารถช่วยรักษาโรคเบาหวานได้ เพราะจากข้อมูลใหม่ ๆ พบว่าคนเราทำให้โรคเบาหวานสงบได้หากมีข้อปฏิบัติถูกวิธี 60-70% ขึ้นไป สามารถลดยาได้กว่าครึ่ง กลุ่มอาการทางเมตาโบลิกหายไป และมีไม่น้อยที่สามารถเลิกยาทุกชนิดได้เด็ดขาดนานเกินกว่า 1 ปีขึ้นไป   เราจึงให้ความสำคัญกับการรักษา ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการฟื้นฟูระบบร่างกายไปพร้อม ๆ กัน เพื่อประสิทธิภาพที่ดีของการรักษาเบาหวาน  



แหล่งที่มา: บทความเบาหวานต้องเริ่มที่การเปลี่ยนทัศนคติ , เบาหวาน หายได้ถ้ารู้วิธี นพ.ฉัตรชัย ศรีบัณฑิต



SEND A MESSAGE
Your email address will not be published. Required fields are marked.
CALL US : 02 651 5988
Select AH Find Dr Contact Us