สายพันธุ์อังกฤษเขาว่าน่ากลัว ป้องกันตัวแค่หน้ากากอาจไม่เพียงพอ

เมื่อมองไปตามท้องถนน หรือพื้นที่สาธารณะในบ้านเรา แน่นอนว่าคนเกือบ 100 % ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดต่อของโรคระบาดในระบบทางเดินหายใจกันทั้งนั้น แต่สิ่งที่เราไม่รู้ได้เลยก็คือ ในจำนวน 100 % นั้นจะมีสักกี่คนที่ให้ความสนใจและใส่ใจกับการเฝ้าระวัง การติดต่อของโรคด้วยการสัมผัส  ทั้ง  ๆ ที่การรับเชื้อด้วยการสัมผัสนั้นมันน่ากลัวกว่าการหายใจร่วมกันซะด้วยซ้ำ โพสต์นี้เราจึงจะมาเล่าให้ฟังว่าทำไมการป้องกันตัวแค่เพียงการใส่หน้ากากอาจไม่พอในการต่อสู้กับเชื้อโรคระบาด

เพราะเมื่อเราใส่หน้ากากอนามัยเพื่อการป้องกันอย่างถูกต้องโอกาสที่ละอองฝอย หรือ สารคัดหลั่งจากผู้ติดเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายเราก็เป็นไปได้อยาก อีกทั้งเราก็จะระวังเมื่อต้องพูดคุยและใกล้ชิดกับคนอื่นอยู่แล้ว ขณะที่การติดต่อของเชื้อด้วยการสัมผัสพื้นผิว หลายคนกับไม่ได้ให้ความระมัดระวังมากเท่าที่ควร เพราะสิ่งที่ต้องสัมผัสเชื้อโรคก็คือนิ้วมือของเราเอง เลยทำให้เราไม่ทันได้ระวังว่า อวัยวะที่เราใช้กดปุ่มลิฟต์ จับราวบันได จับลูกบิดประตูฯลฯ จะเป็นอวัยวะเดียวกันกับที่เราใช้หยิบจับอาหารเข้าปาก ใช้กดมือถือ   ใช้จับตา จมูก และปาก ซึ่งเมื่อมือของเราไปสัมผัสกับพื้นผิวเหล่านั้น และนำมาจับหน้า เกาจมูก ขยี้ตา หยิบอาหารเข้าปาก ก็ทำให้เราได้รับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายแบบไม่ทันได้ตั้งตัว  นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราบอกไปข้างต้นว่าทำไม การป้องกันตัวเพียงการใส่หน้ากากแบบที่ผ่านมาอาจไม่เพียงพอ   คุณอาจจะต้องเพิ่มการดูแลตนเองเข้าไปอีกระมัดระวังในเรื่องของการสัมผัสเพิ่มเข้าไปอีก เพราะว่านอกจากการใส่หน้ากากอนามัยแล้วเราอยากให้คุณให้ความสำคัญกับการล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่  สเปรย์แอลกอฮอล์ หรือเจลแอลกอฮอล์ และระวังกับการสัมผัสโดยให้ความสำคัญกับมันไม่แพ้การป้องกันในระบบทางเดินหายใจ

อย่างไรก็ตามเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการป้องกันการติดเชื้อในกรณีที่คุณอยู่ในสถานที่แออัด และไม่สามารถเว้นระยะเกิน 1 เมตรได้ เช่นในรถตู้โดยสาร หรือต้องใกล้ชิดกับผู้ที่มีความเสี่ยงจริง ๆ แนะนำว่าให้เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโดยการสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้น โดยชั้นแรกเป็นหน้ากากอนามัยและทับด้วยหน้ากากผ้า ก็จะเป็นการเพิ่มสามารถในการป้องกันตนเองให้คุณได้ ทั้งนี้ต้องสวมใส่อย่างถูกวิธีตามคำแนะนำที่เคยได้รับมาด้วย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสุขภาพอนามัยของคุณและคนรอบข้างนั่นเอง